เมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ที่ปรากฏตามข่าวเกี่ยวกับการพบอิกัวน่าจำนวนมากอาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ ใน จ.ลพบุรี และกัดกินพืชผลทางการเกษตรของประชาชน โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ อิกัวน่าที่พบเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่น ซึ่งไม่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ขณะนี้ยังไม่ปรากฏสาเหตุที่แน่ชัดของการพบชนิดพันธุ์ดังกล่าวในธรรมชาติ 

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้ปัญหาดังกล่าวขยายเพิ่มมากขึ้น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 23 และมาตรา 116 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ประกอบกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 27 ก.ค. 2565 เรื่อง กำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าควบคุม พ.ศ.2565 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะไม่พิจารณาอนุญาตให้นำเข้าสัตว์ป่า ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว เพื่อเป็นมาตรการควบคุมปริมาณภายในประเทศ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ดังนี้ กลุ่มที่ 1 สัตว์ป่าที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ วงศ์อิกัวน่า (Family Iguanidae) ลำดับที่ 640 อิกัวน่าทุกชนิดในสกุล Iguana (Iguana spp.) ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อมูลการครอบครองอิกัวน่าเขียว ปัจจุบันมีผู้แจ้งครอบครอง 244 ราย รวมทั้งสิ้น 3,419 ตัว โดย จ.ชลุบรี ครอบครองมากสุด 982 ตัว อย่างไรก็ตามสำหรับการประกาศห้ามนำเข้าดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันและเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมประชากรอิกัวน่าที่ถูกปล่อยอยู่ในธรรมชาติได้ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งสำรวจจำนวนที่แท้จริง หากสามารถควบคุมประชากรอิกัวน่าเขียวได้แล้ว ก็อาจมีการพิจารณาให้นำเข้าอีกครั้ง