เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวภายหลังร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ “แอม” วางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี ว่า ขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐานคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือเพียงผลตรวจหลักฐานบางอย่าง ซึ่งในส่วนคดี น.ส.ศิริพร ยังพบพยานหลักฐานว่านางสรารัตน์ก่อเหตุเพียงคนเดียว ดังนั้น กรณีที่สันนิษฐานกันว่า รอง ผกก. อดีตสามีนางสรารัตน์ มีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยนั้น เป็นเพียงการคาดเดากันไปเอง

ส่วนกรณีปรากฏคลิปรอง ผกก. อดีตสามี นางสรารัตน์ พยายามเจรจากับเหยื่อที่ถูก นางสรารัตน์ โกงเงินหวยทิพย์ จนมีการตั้งข้อสงสัยจากสังคมว่า อดีตสามีนั้นรับรู้ถึงพฤติกรรมการกระทำผิดที่ผ่านมาของ นางสรารัตน์ และยังคงปกป้องให้การช่วยเหลือ นางสรารัตน์ หรือไม่ เพราะเกรงจะส่งผลต่อรูปคดีนั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ต้องขอเวลาตรวจสอบให้แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ขอให้สังคมมั่นใจว่า ไม่ว่าอดีตสามีนางสรารัตน์จะเป็นใคร ก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือทางคดีนี้ได้ เพราะตำรวจกองปราบฯ ยึดพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นที่ตั้ง

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนการออกหมายจับคดีอื่นๆ ทราบว่าทางตำรวจท้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องทางกองปราบและตำรวจพื้นที่ได้ประสานข้อมูล พยานหลักฐานร่วมกันมาโดยตลอดจนทำให้คดีรุดหน้าไปมาก และคำให้การของพยานสำคัญ 5 ปากกับกองปราบฯ เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ก็ทำให้ชุดคลี่คลายคดีสามารถมองเห็นทิศทาง รูปแบบการกระทำผิดมากขึ้นกว่าเดิม.