เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมจิตต์ ศิริแสวง สว.(สอบสวน) สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบัสรับส่งพนักงาน ชนเสาไฟฟ้าหักโค่นหลายต้น มีรถยนต์เสียหายหลายคัน ภายในสวนอุตสาหกรรมโรจนะประตู B ต.คานหาม อ. อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอุทัย ตัดกระแสไฟฟ้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ

ที่เกิดเหตุพบรถบัสรับส่งพนักงาน หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 30-0093 ชัยภูมิ สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ชนติดอยู่กับเสาไฟฟ้าจนหักโค่น และดึงเสาไฟฟ้าต้นอื่นๆ ล้มระเนนระนาด รวม 7 ต้น มีรถกระบะถูกเสาไฟฟ้าล้มทับคาอยู่ เสียหาย 1 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน รถเก๋ง 1 คัน และมีรถกระบะเสียหายอีก 1 คัน เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร 1 ช่องทาง เพื่อความปลอดภัย ส่วนการจ่ายกระแสไฟฟ้าตามโรงานต่างๆ ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสวนอุตสาหกรรมมีการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับโรงงานต่างๆ อยู่แล้ว

สอบถาม นายธวัชชัย จันน้ำครบ อายุ 24 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ตนเองกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กผ 6402 พิษณุโลก เพื่อไปทำงาน ขี่ตามหลังรถบัสมา จังหวะนั้นรถบัสคันเกิดเหตุเสียหลักพุ่งชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง จนทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นเฉี่ยวตนเองไปนิดเดียว รอดมาอย่างหวุดหวิด

ด้าน นายแพนศักดิ์ แสนยศ อายุ 39 ปี คนขับรถกระบะ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน กอ 5419 พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในผู้เสียหาย เผยวินาทีเฉียดตายว่า ตนเองกำลังขับรถมาส่งแฟนที่บริษัทแล้วได้ขับรถตามรถบัส สังเกตเห็นรถบัสขับส่ายไปมา จากนั้นไม่นานรถบัสเสียหลักพุ่งไปชนเสาไฟฟ้า จนดึงเสาไฟฟ้าต้นอื่นล้มและมาทับด้านหน้ารถของตน ตอนนั้นตั้งสติไม่ให้แฟนออกจากรถ เพราะกลัวจะถูกไฟดูดและมีประกายไฟเสียงดังสนั่น จนเวลาผ่านไปเห็นว่าปลอดภัยจึงค่อยออกมาจากรถทันที

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนขับรถบัสเป็นชาย อายุประมาณ 70 ปี ไปสอบสวนและตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จากการสอบถามคนขับรถบัส ในเบื้องต้นทราบว่า กำลังขับรถเที่ยวเปล่าเข้าไปรับพนักงานภายในโรงงานแห่งหนึ่ง รถเกิดเสียหลักเบรกไม่อยู่ พุ่งชนกับเสาไฟฟ้า

ส่วนผลการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พบสูงถึง 190 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวดำเนินคดี พร้อมทั้งจะทำการสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และประสานเจ้าของรถยนต์ที่เสียหาย และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า เพื่อสำรวจความเสียหายทั้งหมด