นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง มีนโยบายที่จะเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทุกด้านเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งของภูมิภาค โดยจะมีโครงการที่ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งโครงการเดิม และผลักดันโครงการใหม่ ซึ่งในการเดินทางไปเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค. นายกรัฐมนตรีจะนำเสนอแผนนี้ต่อนักลงทุนให้เห็นโอกาสและทิศทางในการลงทุนในประเทศไทยเพื่อโปรโมตว่าประเทศของเรากำลังจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในรอบ 20 ปี

ทั้งนี้ในส่วนแรกของการส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วันนี้ (1 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีจะได้มีการแถลงแผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางการบินการขนส่งของภูมิภาค ซึ่งเป็นการขยายผลรายละเอียดจากที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงในงาน “อิกไนท์ ไทยแลนด์” สัปดาห์ที่แล้ว แต่จะเป็นการลงรายละเอียดแผนการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ซึ่งแผนนี้ถือเป็นการผลักดันให้ไทยเป็นเมืองศูนย์กลางการบิน รัฐบาลจะใช้ศักยภาพและทรัพย์สินของคนประเทศไทยที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะต้องทำทั้งยกระดับและพัฒนาสนามบินที่มีอยู่ รวมทั้งการลงทุนขยายสนามบินแห่งใหม่เพิ่มเติม เช่น สนามบินล้านนา และสนามบินอันดามัน

ขณะเดียวกันเรื่องการยกระดับสนามบิน ยังมีโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่รัฐบาลจะผลักดัน ซึ่งเป็นการมองภาพรวมไม่ใช่โครงการใดโครงการหนึ่ง ซึ่งการเร่งรัดการลงทุนในโครงการที่ล่าช้า เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งให้ได้ โดยมีโครงการที่จะเร่งรัด เช่น ส่วนโครงการรถไฟไทย–จีน ที่มีความล่าช้า ยืนยันว่ารัฐบาลจะเร่งรัดให้เสร็จในรัฐบาลนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลจะเดินหน้าต่อเพราะนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนใหม่ก็ยังสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี รวมทั้งการขยายโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนนและระบบรางเพื่อรองรับการเข้ามาของการลงทุน และการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยแหล่งเงินที่จะรองรับการลงทุนจะใช้เงินงบประมาณเท่าที่จำเป็น และดึงการร่วมลงทุนจากภาคเอกชนในรูปแบบพีพีพี

“รัฐบาลนี้กำลังชดเชยทศวรรษที่สูญเสียไป แม้ในระยะสั้นเราต้องการรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันคิดเป็น 17–20% ของจีดีพี แต่เรื่องของการลงทุนนั้นถือเป็นผลตอบแทนในระยะยาว ที่ประเทศจะได้รับ ซึ่งประเทศไทยนั้นมีศักยภาพจะเป็นฮับของการคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ได้ สิ่งที่รัฐบาลทำจะให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่รอบ 20 ปี โดยการเชิญชวนคนมาลงทุนให้ได้มากที่สุด เพื่อปรับเปลี่ยนให้เราสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่ง เนื่องจากบรรยากาศการเมืองฟื้น เราต้องปรับตัวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยการเดินเข้าไปหาตลาด และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย”

สำหรับความคืบหน้าเรื่องของการชักชวนการลงทุนในโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้หรือแลนด์บริดจ์นั้น รัฐบาลยืนยันว่าโครงการนี้ยังเดินหน้าต่อเนื่องและได้รับความสนใจจากนักลงทุนชาวต่างชาติจำนวนมาก ทั้งจากเยอรมนี สหรัฐ ส่วนจีนนั้น ล่าสุดนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนมาไทยล่าสุดก็ได้ให้ความสนใจอย่างมาก และมีการขอข้อมูลของโครงการเพิ่มเติม ทั้งนี้ในการเดินทางไปเยือนฝรั่งเศสของนายกรัฐมนตรีจะไปโรดโชว์โครงการแลนด์บริดจ์ และเชิญชวนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะสร้างบทบาทให้ประเทศไทยในเวทีโลกมากขึ้น

“เส้นทางคมนาคมทุกเส้นเป็นประโยชน์และความเจริญ ถ้าเป็นประโยชน์เราไม่ต้องให้ใครมาเร่ง เราจะเร่งด้วยตัวเราเองเพื่อสร้างเสน่ห์ เพราะเรามีผืนแผ่นดินไทยเป็นข้อได้เปรียบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์อยู่แล้ว หากใช้ไม่เป็นก็ซึมเศร้า หากคนเล่นเป็นก็จะไปได้มากกว่านี้ หน้าที่ของผู้นำคือ คือการนำและเชิญชวนให้คนเข้าใจไปด้วยกันเพราะฉะนั้นเราถึงมีการพูดเรื่อง Ignite Thailand ขึ้นมา”

ผู้สื่อข่าวถามว่าในเรื่องของ “อิกไนท์ ไทยแลนด์” ที่จะสำเร็จคือปี 73 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า แสดงว่าพรรคเพื่อไทยต้องการกลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัยใช่หรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ยิ้มกว้าง ก่อนกล่าวว่า “ดูรอยยิ้มผมแล้วกัน”