นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 67 ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพการประชุมนานาชาติ 10 งาน ประกอบด้วย การประชุมทางการแพทย์ 6 งาน ส่วนที่เหลือเป็นงานการประชุมด้านวิศวกรรม การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเรื่องสิทธิสตรี โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาประชุมในไทยไม่น้อยกว่า 20,000 คน ประมาณการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะได้รับ 17,252 ล้านบาท

สำหรับชัยชนะครั้งนี้ เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างทีเส็บกับสมาคมวิชาชีพต่างๆ ในประเทศ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพการประชุมวิชาชีพระดับนานาชาติและความโดดเด่นของไทยในด้านอุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางและเจ้าภาพการจัดประชุมและเทศกาลนานาชาติ และในปีงบประมาณ 67 ทีเส็บมีเป้าหมายดึงนักเดินทางไมซ์เข้าไทย 23.2 ล้านคน สร้างรายได้ 1.4 แสนล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับการดึงงานที่มีคุณภาพ กระจายการประชุมไปยังไมซ์ซิตี้ในภาคต่างๆ เพื่อให้อุตสาหกรรมไมซ์ มีบทบาทช่วยกระตุ้นการพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ ทีเส็บยังดึงงานระดับใหญ่มาลงที่เมืองไมซ์ในภูมิภาค เพื่อร่วมสนับสนุนการกระจายการพัฒนาด้วย ทั้งการประชุมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์วิทยาการด้านอาหารขององค์กรยูเนสโก (CoGs) มาจัดที่ภูเก็ต และการประชุมงาน Pinnacle Awards Asia Conference 2024 ของ International Festivals and Events Association-Asia (IFEA-Asia) มาจัดที่พัทยา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ IFEA-Asia มาจัดการประชุมใหญ่นอกประเทศเกาหลี

ขณะเดียวกันทีเส็บยังสนับสนุนการจัดงานขนาดใหญ่เกินหนึ่งพันคนขึ้นไปอีก 47 งาน ประกอบด้วยงานประชุมนานาชาติ 6 งาน เมกะอีเวนต์และเทศกาล 17 งาน งานประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลจากต่างประเทศ 6 งาน และงานแสดงสินค้านานาชาติ 18 งาน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นงานแสดงสินค้าหน้าใหม่ 3 งาน สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 7,800 ล้านบาท นอกจากนี้ ทีเส็บมีกำหนดสนับสนุนการจัดงานในช่วงมีนาคมเป็นต้นไป อีกไม่น้อยกว่า 30 งาน ผู้ร่วมงานไม่น้อยกว่า 4 หมื่นคน ประมาณการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท