น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้สั่งการให้หน่วยงานภายใต้สังกัด จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) เพื่อตอบโจทย์นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่ประกาศวิสัยทัศน์ประเทศไทย “IGNITE THAILAND” เพื่อพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ใน 8 อุตสาหกรรม ในปี 73 โดยหนึ่งในนั้นเป็นการตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว โดยจะมีการเวิร์กช็อปช่วงวันที่ 12-14 มี.ค.เพื่อจัดทำแผนนำเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกฯ ประกาศแผนในวันที่ 15 มี.ค. 67

“รมว.การท่องเที่ยวฯ ได้สั่งการให้ ททท.เป็นแม่งานเชิญหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวมาร่วมแสดงความเห็นว่า การไปสู่เป้าหมายนั้นจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อจัดทำออกเป็นแผนและให้นายกรัฐมนตรีประกาศภายในเดือนมี.ค.นี้ เหมือนที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศแผนการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน ในวันที่ 1 มี.ค.นี้”

สำหรับหน่วยงานที่จะเชิญมา ประกอบด้วย หน่วยงานภายในกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะมาทั้งหมด เช่น กรมการท่องเที่ยว บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ และรวมถึงหน่วยงานพันธมิตรด้านการบิน เช่น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กรมท่าอากาศยาน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอโอที คณะกรรมการบริหารการท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา) ตลอดจนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบินด้วย

ส่วนหัวข้อในการเวิร์กช็อป ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ การยกระดับเมืองหลักเมืองรอง ชูซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อพัฒนาทุกจังหวัดเป็นเมืองท่องเที่ยว, การผลักดันประเทศไทยเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ให้เกิดเทศกาลระดับโลก, ผลักดันให้มี One Visa Free ของภูมิภาคอาเซียน เหมือนที่สหภาพยุโรปหรืออียู ที่ใช้วีซ่าเชงเก้นเข้าได้ทุกประเทศในอียู, สร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ปลดล็อกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เพื่อเอื้อให้ผู้จัดงานระดับโลกสามารถเข้ามาจัดแสดงในประเทศไทย

“การไปสู่เป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ทาง ททท.ต้องไม่ทำคนเดียว และทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกคนต้องเป็นฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล ภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่ ทุกคนต้องลุกขึ้นเดินไปร่วมกันสร้างความพร้อมในแต่ละเมืองให้เป็นเมืองท่องเที่ยว จากนั้น ททท.จะหานักท่องเที่ยวมาเติมในพื้นที่ให้”

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยวใต้สุดใจ” ที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อสร้างเศรษฐกิจและยกระดับรายได้ของคนในพื้นที่ผ่านการท่องเที่ยว นายกฯ ได้พูดเองว่าเมื่อลงมาพื้นที่นี้สัมผัสได้ด้วยตัวเองว่าบรรยากาศเหมือนเชียงใหม่ ท่องเที่ยวได้สบายและมีรอยยิ้มของคนในพื้นที่ซึ่งมีความหมาย เห็นแล้วอยากให้นักท่องเที่ยวมาจริงๆ สร้างความประทับใจ มีรอยยิ้มที่จริงใจ มีเสน่ห์ของพหุวัฒนธรรมที่จะยกระดับพัฒนาต่อไปได้ ซึ่งจะต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สาธารณูปโภคและเพิ่มทักษะและบริการให้กับคนในพื้นที่เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต