เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีราคายางพาราในประเทศ ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเวลา 41 เดือนที่ผ่านมา โดยราคาส่งออก ทะลุ 80 บาทต่อกิโลกรัม ว่า ยางเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศไทย มีพื้นที่ปลูกยางพารามากกว่า 25 ล้านไร่ ซึ่งในอดีตราคายางพารา 3-4 กิโล 100 บาท แต่เมื่อรัฐบาลเข้ามาทำงาน ประกาศเอาไว้ว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร 3 เท่า ภายใน 4 ปี ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการลักลอบนำเข้ายางเถื่อนอย่างมาก 

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว ซึ่งมาเลเซียเป็นประเทศนำเข้ายางพารามากถึง 80% เพราะมีโรงงานผลิตถุงมือยาง และตนได้บอกกับนายกมาเลเซียว่า หากมีอะไรให้พูดคุยได้โดยตรง จะได้จัดส่งยางไปให้ ไม่จำเป็นต้องนำเข้าจากเมียนมาหรือลาว และผ่านประเทศไทย เพราะไม่แน่ชัดว่าจะไปถึงมาเลเซียจริงหรือไม่ หรือระหว่างทางสินค้าจะถูกกระจายในประเทศไทย 

นายกฯ กล่าวต่อว่า ดังนั้นทางที่ดีไม่ต้องเอาเข้ามาในประเทศ หากมีอะไรให้ติดต่อผ่านกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้กำชับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ไปแล้วว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ให้ติดต่อประเทศมาเลเซียโดยด่วน หากมีความต้องการใช้ยางสูง ไทยพร้อมที่จะส่งให้ได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าราคายางจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลจะพยายามดำเนินมาตรการให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นต่อไป เพราะมีเกษตรกรผู้ปลูกยางอยู่ทั้งในภาคใต้ ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

“ส่วนตัวรู้สึกดีใจมาก ที่ราคายางปรับตัวสูงขึ้น ส่วนสำคัญเกิดจากหลายภาคส่วน ที่ร่วมมือกันขับเคลื่อน เป็นหูเป็นตา รวมไปถึง สส. ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ตาม ก็มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะในการเข้มงวดตรวจสอบนำเข้าสินค้าเถื่อน ทั้งหมูเถื่อน เนื้อเถื่อน แพะเถื่อน ไม่ให้นำเข้าอยู่แล้ว โดยเฉพาะสินค้าหลักที่ไทยสามารถผลิตได้เอง จะไม่จำเป็นต้องเอาเข้ามา เพราะต้องดูแลเกษตรกรของไทยก่อน” นายกฯ กล่าว.