นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคามันสำปะหลัง ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ กก. ละ 3.65 บาท และสูงสุด 3.90 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากมีความต้องการใช้มันสำปะหลังเพิ่มขึ้นมาก ประกอบกับปีนี้เกิดโรคใบด่างทำให้ผลผลิตในประเทศลดลงจาก 30 ล้านตันเมื่อปีก่อน เหลือ 27 ล้านตัน  และล่าสุดภาคเอกชนได้ไปสำรวจ พบว่ามันสำปะหลังมีแนวโน้มที่ผลผลิตจะลดลงจากอีก 27 ล้านตันอีกด้วย สวนทางกับความต้องการใช้อยู่ที่ 42 ล้านตัน  

ทั้งนี้ กรมจะนัดประชุมร่วมกับ 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลัง และตัวแทนเกษตรกร เพื่อหารือดูแลสถานการณ์มันสำปะหลัง เพราะหากปล่อยไว้อาจไม่เป็นผลดี และกระทบต่อรายได้เกษตรกร และการส่งออก ทำให้ประเทศเสียโอกาส  ที่สำคัญไทยเป็นผู้ส่งออกมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันรายใหญ่ของโลก โดยเฉพาะแป้งมันที่ไทยดีที่สุดในโลก ถ้ามีปัญหาเรื่องวัตถุดิบ อาจกระทบต่อเรื่องอื่นตามมา

นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกก็ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ เดือนมี.ค.67 ราคา 14,850 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับ มี.ค.66 ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 14,600 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 13% ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคา 14,650 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 36% ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 12,500 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 26% และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 13,300 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้น 13% ส่วนราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อยู่ที่ กก.ละ 9.63 บาท สูงสุด 9.80 บาท ราคาหน้าโรงงาน กก.ละ 10.34 บาท ปาล์มน้ำมัน กก.ละ 5.80 บาท สูงสุด กก.ละ 6.20 บาท น้ำมันปาล์มขวด 45 บาท แต่ในห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า จัดโปรโมชั่นขวดละ 43-44 บาท

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กำลังหารือกับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย ดำเนินโครงการเชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกแก่เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร เฟส 2 หลังจากจะสิ้นสุดเฟสแรกวันที่ 31 มี.ค.นี้ เพื่อช่วยเหลือและช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร โดยจะลดราคาปุ๋ยกระสอบละ 10-50 บาท เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.67 เป็นต้นไป ส่วนผลเฟสแรกมีการนำปุ๋ยมาลด 3.1 ล้านกระสอบ 64 สูตร สั่งซื้อไปแล้ว 1.131 ล้านกระสอบ ช่วยเกษตรกรลดต้นทุน 216 ล้านบาท