เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายพงษ์พล สุขขันธี อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 104/3 หมู่ที่ 5 ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว พร้อมเปิดภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายเป็นชาย ปีนเข้ามาทางกำแพงหลังบ้าน ก่อนเข้ามาภายในบ้านรื้อค้นข้าวของ ขึ้นไปที่ห้องพระ ขโมยพระพุทธรูปบูชา 4 องค์ พระเจ้าสิบชาติ 1 แผง จำนวน 10 องค์ หอยสังข์เล็ดใหญ่ อย่างละ 1 ใบ รวม 2 ใบ กระเป๋า 1 ใบ เงินสดในกระป๋อง ประมาณ 10,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1 แสนบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 มี.ค. เวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา

โดยนายพงษ์พล เล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 67 เวลาประมาณ 15.54 น. ภาพกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายชายไว้ได้อย่างชัดเจน อายุประมาณ 30-40 ปี ลักษณะสวมใส่เสื้อสีดำ ขางหลังสกรีนเลข 0 นุ่งกางเกงยีนขาสามส่วน รองเท้าแตะ ไม่ปิดบังใบหน้า เห็นได้อย่างชัดเจน เข้ามาทางหลังบ้าน ก่อนงัดหน้าต่างหลังบ้านเข้ามาภายในบ้าน รื้อค้นทรัพย์สิน ก่อนขึ้นไปที่ห้องพระชั้น 2 ซึ่งติดกล้องวงจรปิด จับภาพพฤติกรรมชัด หยิบพระเครื่องใส่กระเป๋า ก่อนปีนกลับออกทางข้างหลังบ้าน เวลา 16.00 น. แล้วรีบหลบหนีไป

นายพงษ์พล เล่าว่า ตนเปิดร้านขายอะไหล่รถยนต์ ขณะที่อยู่ที่ร้าน กล้องส่งสัญญาณเตือนขึ้นมาที่โทรศัพท์ จึงเปิดกล้องวงจรปิดดู พบคนร้ายเดินอยู่ในห้องพระ จึงรีบไปดูที่บ้านแต่ไม่ทัน คนร้ายหลบหนีออกไปก่อน เพียงแค่ 1 นาที ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามาทางไหน จึงตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดทุกตัวภายในบ้าน พบว่าคนร้ายปีนเข้ามาจากด้านหลัง ตอนนี้ยังรู้สึกกลัว อยากให้ตำรวจจับให้ได้ เพราะบริเวณในชุมชน ถูกคนร้ายก่อเหตุเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านมาแล้วหลายครั้ง

ส่วนตนนั้น ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านมาแล้ว เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา คนร้ายได้ถังแก๊ส 15 กิโลกรัม ถังแก๊ส 5 กิโลกรัม พร้อมกับเครื่องครัวไป จึงลงทุนติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบ้าน เพื่อใช้เป็นหลักฐาน และหวังว่าคนร้ายเห็นกล้องวงจรปิดแล้วจะกลัว ผ่านมา 3 เดือน ถูกคนร้ายก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับให้ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีก.