ต่อมาเวลา 21.00น.  วันที่ 20 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567  ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ2 

เข้าสู่การพิจารณามาตรา 13 งบประมาณกระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่กมธ.ปรับลดงบประมาณเหลือ 21,767,133,300 บาท จากเดิมที่เสนอมา 46,448,299,100 บาท  ซึ่งการพิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น เนื่องจากมีกมธ. และ สส.อภิปรายเพียงไม่กี่คน โดยที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบ มาตรา 13 ตามกมธ.แก้ไข

จากนั้นเวลา 21.35 น. เข้าสู่การพิจารณามาตรา 14 งบประมาณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ที่กมธ.ปรับลดงบประมาณ เหลือ 53,879,351,700 บาท  จากเดิมที่เสนอมา53,933,774,200 บาท โดยที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบ มาตรา 14 ตามกมธ.แก้ไข

จากนั้นเวลา 23.00 น. เข้าสู่การพิจารณา มาตรา 15  งบประมาณกระทรวงคมนาคม ที่กมธ.ปรับลดงบประมาณ เหลือ 65,684,327,100 บาท จากเดิมที่เสนอมา65,841,438,700 บาท 

นายสุรเชษฐ์ ประวีนวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สงวนคำแปรญัตติอภิปรายงบฯกรมทางหลวง 34.8 ล้านบาท ในโครงการประเมินสภาพโครงข่ายทางหลวงเพื่อเพิ่มประสิทธิผล โดยยกข้อมูลกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทยังทำโครงการที่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งรายละเอียดโครงการเหมือนกันตั้งแต่ราคา จนไร้ความน่าเชื่อถือ ราคากลางมีเหมือนไม่มีเพราะไม่รู้ราคาที่แท้จริง  และตั้งข้อสังเกตว่าซุกเงินก้อนโตแบบไร้คำอธิบาย 

ส่วนนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคไทยสร้างไทย กล่าวอภิปราย เสนอตัดงบ 157 ล้านบาท ในกรมที่ของบประมาณเกินเกินกว่าความจำเป็น หรือการใช้งบไม่คุ้มค่า คือ กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ในโครงการงบบำรุงเส้นทาง ที่ทั้ง2 กรมตั้งงบรวมกันแล้วมากถึง46,339 ล้านบาท โดยกรมทางหลวงตั้งงบ 27,157 ล้านบาท บำรุงถนน 897 โครงการและบำรุงสะพาน 24 แห่ง  และกรมทางหลวงชนบทตั้งงบ 19,181 ล้านบาท บำรุงถนน426 เส้นทาง พร้อมตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงไม่มีการเข้มงวดในการใช้กฎหมายกับรถบรรทุกที่เกินน้ำหนัก เพื่อประหยัดเงินบำรุงรักษาเส้นทาง เพื่อนำงบประมาณส่วนต่างที่เหลือไปใช้โครงการอื่น อย่างโครงการดิจิทัลวอลเลต และยังกล่าวถึงการสร้างถนนพระราม 2 นาน 54 ปี ฝากถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม  ขอให้ดำเนินการกับ 13 สัญญาก่อสร้าง ให้ทำตามสัญญาที่ประกาศว่าปี 2568 ถนนจะก่อสร้างแล้วเสร็จขอเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ก่อนทิ้งท้ายว่าจากที่เรียกถนนเจ็ดชั่วโคตร ก็จะกลายเป็นถนนเสร็จชั่วโคตร

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายเปรียบเทียบว่าการจัดสรรงบประมาณกระทรวงคมนาคมคล้ายมุ่งเน้นเรื่องโครงสร้างพัฒนาพื้นฐานจนลืมทิ้งใครไว้ข้างหลังหรือไม่ โดยชี้ไปที่อำนาจกรมเจ้าท่าในการบริหารจัดการคูคลองแม่น้ำ โดยหยิบยกสภาพปัญหาของแม่น้ำคลองสำโรงจ.สงขลา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทั้งอ่าวไทยและอันดามันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจากงบประมาณกว่า 200,000 ล้านบาทแต่กรมเจ้าท่าได้รับการจัดสรร4,365 ล้านบาทหรือคิดเป็นเพียง 1.9% ของงบฯ ซึ่งสวนทางกับภารกิจที่มีอยู่ และเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมลงทุนสร้างท่าเรือรองรับเรือสำราญ 

และที่ประชุมสภาฯมีมติเห็นชอบตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก 

จากนั้น นายพิเชษฐ์ ประธานในที่ประชุม ได้สั่งปิดประชุมในเวลา 23.59 น.และนัดประชุมต่อในวันที่  21 มี.ค.  เวลา 09.00 น. ซึ่งในวันแรกใช้เวลาในการประชุมประมาณ14 ชั่วโมงครึ่ง โดยผ่านไปทั้งสิ้น 15 มาตราจาก 41 มาตรา

โดยในการพิจารณา วันที่ 2 จะเริ่มที่

มาตรา 16 งบประมาณกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่กมธ.ปรับลดงบประมาณเหลือ  5,347,054,800 บาท  จากเดิมที่เสนอมา  5,419,139,300 บาท.