เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมกับ นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นประธานจัดการประชุมชี้แจงแนวทางให้การสนับสนุนและการมีส่วนร่วมดำเนินโครงการจัดการป่าเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างยั่งยืน โดยมีภาคเอกชนเข้าร่วมหารือรวม 17 บริษัท

นายจตุพร ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทส. ได้ให้นโยบายและสั่งการการแก้ไขปัญหาไฟป่า โดยต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทส. จึงร่วมกับบีโอไอ ขับเคลื่อนให้ภาคเอกชนร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหา เพื่อลดข้อจำกัดด้านงบประมาณภาครัฐ ซึ่งการสนับสนุนดังกล่าว จะครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และป่าชุมชน โดยเอกชนจะสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟป่า การฝึกอบรมความรู้ การก่อสร้างจุดเฝ้าระวังไฟป่า การแปรรูปวัสดุเชื้อเพลิงจากป่า และพื้นที่เกษตรในเขตป่าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการส่งเสริมการผลิตของป่าให้มาอยู่ในภาคครัวเรือนเพื่อการค้าเพื่อลดการเข้าไปจุดไฟในป่า ซึ่งสิ่งที่ภาคเอกชนได้ลงทุนให้กับภาครัฐ ท้ายที่สุดจะถูกส่งต่อให้กับองค์กรชุมชนและประชาชนในพื้นที่ จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและควบคุมไฟป่า

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนระดับการลงทุนแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1.การลงทุนขั้นพื้นฐาน การลงทุน 5 แสนบาทขึ้นไป 2.การลงทุนขั้นกลาง การลงทุนไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านบาท หรือรวมการลงทุนขั้นพื้นฐาน 3 ล้านบาทขึ้นไป และ 3.การลงทุนขั้นสูง มูลค่าการลงทุน 5 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ภาคเอกชนจะได้รับสิทธิและประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 200% เป็นการตอบแทน โดยเป็นไปตามเงื่อนไขที่วางไว้.