สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ว่า กฎหมายดังกล่าว ซึ่งผ่านการลงมติในรัฐสภาอิสราเอล หรือ คเนสเซ็ท ด้วยคะแนนเสียง 70 ต่อ 10 มอบอำนาจให้รัฐมนตรีระดับสูง สามารถสั่งห้ามการออกอากาศ โดยช่องต่างประเทศที่ถือเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ และสามารถสั่งปิดสำนักงานของหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาได้

เนื่องจากรัฐบาลเทลอาวีฟ ของเนทันยาฮู มีความบาดหมางกับสำนักข่าวอัลจาซีรา ซึ่งเป็นเครือข่ายสื่อในกาตาร์ มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซา ผู้นำอิสราเอลจึงเลือกแบนสำนักข่าวดังกล่าวเป็นรายแรกอย่างรวดเร็ว

“อัลจาซีรา ซึ่งเป็นช่องของผู้ก่อการร้าย จะไม่สามารถออกอากาศในอิสราเอลได้อีกต่อไป และผมตั้งใจที่จะดำเนินการตามกฎหมายใหม่ในทันที เพื่อหยุดกิจกรรมของช่องนี้” เนทันยาฮู ระบุบนแพลตฟอร์ม เอ็กซ์

ในทางกลับกัน อัลจาซีรา ประณามคำสั่งห้ามดังกล่าวว่าเป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีอย่างเป็นระบบของอิสราเอล เพื่อปิดปากอัลจาซีรา ซึ่งรวมถึงการสังหารนักข่าวคนสำคัญในภูมิภาค ขณะรายงานการโจมตีของอิสราเอล เมื่อเดือน เม.ย. 2565 พร้อมกับยืนกรานว่า ทางสำนักข่าวจะปฏิบัติหน้าที่ในการรายงานข่าวสงครามที่เกิดขึ้นต่อไป

ด้านคณะกรรมการเพื่อการปกป้องผู้สื่อข่าว (ซีพีเจ) ซึ่งตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก ระบุว่า กฎหมายใหม่ของอิสราเอล มีส่วนทำให้เกิดบรรยากาศของการเซ็นเซอร์ตัวเอง และความไม่เป็นมิตรต่อสื่อ ซึ่งแนวโน้มข้างต้นเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ปะทุเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566.

เครดิตภาพ : AFP