เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ครั้งที่ผ่านมา ว่า สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการอภิปรายซักถามและเสนอแนะต่อรัฐบาลอย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา ตามครรลองของกระบวนการตรวจสอบในระบบรัฐสภา แต่ต้องยอมรับว่ามีรัฐมนตรีบางคนตั้งใจตอบและรับข้อเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ แต่ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ถือว่า ประชาชนผิดหวัง นอกจากไม่มีสาระในการตอบแล้ว ยังใช้วิธีด้อยค่าพรรคการเมืองอื่น ทั้งที่ควรเอาชนะกันด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง แต่นายกรัฐมนตรี จะบอกก่อนว่างงๆทุกเรื่องไป และไม่ได้เอาสาระข้อเท็จจริงมาชี้แจงตอบข้อซักถามเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเลือกปฏิบัติต่อประชาชนในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีหลักฐานชัดจากคำพูดของบุคคลในรัฐบาลขณะนั้น ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคของตน แต่นายกรัฐมนตรี ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ทราบ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายกรัฐมนตรีพูดในลักษณะด้อยค่าพรรคการเมืองนั้น ตนก็ต้องบอกว่าขอให้กลับไปดูพรรคตัวเองให้ดี ส่วนพรรคประชาธิปัตย์อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะยึดหลักการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ตรงไปตรงมา ไม่ทำผิดกฎหมาย แม้จำนวน สส.ที่ผ่านการเลือกตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง ก็เป็นไปตามระบบ แต่ความเป็นสถาบันการเมืองยังอยู่

“การที่มาบอกว่าวันหลังพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เหลือพื้นที่ในสภา ผมก็ขอให้ระวังตำแหน่งของตัวเองให้ดี ระวังนายกรัฐมนตรีตัวจริงจะมาทวงคืน และที่บอกว่ามีฝ่ายค้านไปขอร่วมรัฐบาลนั้น ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริง ก็ต้องเปิดเผยมาว่าใคร ไม่ใช่มากล่าวหา เพื่อลดความน่าเชื่อถือกันลอยๆ โดยที่ไม่มีหลักฐาน”นายราเมศ กล่าว