เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (1 ต.ค.) ที่ชมรมทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.นงนภัส คำโสภา อายุ 38 ปี อาชีพค้าขาย เป็นตัวแทนผู้เสียหายที่อยู่ในกลุ่มชื่อ “ไลน์โดนโกง” นำเอกสารหลักฐานสลิปโอนเงินเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดีหลังจากถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กหลอกขายแอลกอฮอล์พกพาพร้อมชุดอุปกรณ์ป้องกันโควิดทางออนไลน์ มีผู้เสียหายกว่า 30 คน ทั่วประเทศ​ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาท

น.ส.นงนภัส กล่าวว่า วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้สั่งซื้อแอลกอฮอล์พกพาสีสันสวยงามพร้อมเคสใสและสายคล้องคอทางออนไลน์ 50 อัน ราคา 2,250 บาท โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ (สงวนชื่อสกุล) ซึ่งเห็นประกาศขายทางออนไลน์ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด จึงหลงเชื่อโอนเงินไป ปกติแล้วถ้าสั่งซื้อของทางออนไลน์ก็จะสั่งเป็นแบบเก็บเงินปลายทาง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่โอนเงินโดยไม่ยั้งคิดเพราะคนร้ายนั้นมีวิธีการพูดให้หลงเชื่อจึงโอนเงินทันที ปรากฏว่าได้ของไม่ตรงปก ของที่ได้คือ ขวดสเปรย์เล็กๆ​ ราคา 2 บาท 5 ขวด

น.ส.นงนภัส กล่าวอีกว่า เสียความรู้สึกมากที่โดนหลอก​ เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้วไม่น่าจะมาซ้ำเติมกัน หลังจากถูกหลอกก็ติดต่อคนร้ายไม่ได้อีกเลยคาดว่าน่าจะเปลี่ยนบัญชีเฟซบุ๊กหนีแล้วไป จึงได้แจ้งความตำรวจเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ตำรวจบอกว่าจะโทรฯ​ ติดต่อกลับมาภายใน 2 วัน แต่ตอนนี้ผ่านไป 1 เดือนแล้วยังไม่มีใครติดต่อกลับมา รวมถึงไปร้องทุกข์ที่ บก.ปอท. ก็ได้คำตอบว่ายังไม่รับคดีเพราะเป็นคดีเล็กๆ วันนี้จึงเป็นตัวแทนให้กับผู้เสียหายกว่า 30 คนในประเทศเดินทางขอความช่วยเหลือจากทนายโป้ง ซึ่งเห็นจากในทีวีว่าทนายโป้งช่วยเหลือผู้เสียหายในเรื่องของการถูกโกงสั่งของออนไลน์​ จึงอยากให้ช่วยติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ต่อไป

ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นที่พูดคุยกับผู้เสียหายคาดว่ามีการผิดพลาดคลาดเคลื่อนกับตำรวจที่ไปแจ้งความ เพราะเอกสารทุกอย่างครบถ้วน หลังจากนี้จะช่วยผู้เสียหายประสานอีกทีและจะพาผู้เสียหายไปโรงพักให้พนักงานสอบสวนดำเนินการอาญัติบัญชีและเรียกผู้ต้องหาเข้าพบ เพราะการสั่งซื้อครั้งนี้เป็นการฉ้อโกง ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จะไปช่วยติดตามให้และสอบถามพนักงานสอบสวนว่าทำไมไม่ออกหมายเรียก กรณีที่โอนเงินไปแล้วได้สินค้าไม่ตรงตามที่โฆษณา

ทนายโป้ง กล่าวว่า อยากฝากถึงคนที่ชอบซื้อของออนไลน์ให้มีสติ ดูให้ดี ก่อนจะสั่งซื้ออะไร ดูรีวิว คอมเมนต์ หรือ หาในเน็ตว่าสินค้าแบบนี้เข้าข่ายการโกงหรือไม่ ไม่ใช่เห็นว่าสินค้ามีราคาถูกอย่าใจร้อน กรณีนี้ผู้เสียหายบอกว่าเรื่องเงียบมาเป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว ผู้ต้องหาก็ปิดเฟซบุ๊กหนีไปแล้ว ตอนนี้ต้องดูทางตำรวจว่าจะตามเงินจำนวนนี้ให้กับผู้เสียหายได้หรือไม่ ส่วนคนที่ขายของออนไลน์อยากให้ทุกคนมีความสุจริต ถ้าโกงจะโดนข้อหาฉ้อโกง จึงอยากฝากผู้เสียหายทุกคนให้ดำเนินคดีไม่ว่าจะเงินน้อยหรือเงินมาก คนผิดจะได้รับโทษในสิ่งที่ทำ แต่ถ้าสำนึกผิดก็สามารถเข้ามาไกล่เกลี่ยนกับทางผู้เสียหายได้ เพราะเรื่องนี้เป็นการยอมความกันได้