สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ว่าบริษัทดีทีอีเค ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเอกชนด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของยูเครน รายงานว่า โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 4 แห่งในประเทศ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากการโจมตีของกองทัพรัสเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา


นอกจากนี้ ยูเครเนอร์โก ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานแห่งชาติของยูเครน ออกแถลงการณ์ขอความร่วมมือ ให้ภาคประชาชนและภาคธุรกิจเพิ่มความพยายาม ประหยัดการใช้พลังงานโดยเฉพาะในช่วงเวลาค่ำ


ด้านกองทัพยูเครนรายงาน การสกัดการโจมตีจากขีปนาวุธของรัสเซีย ได้อย่างน้อย 21 จาก 34 ลำ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เรียกร้องพันธมิตรตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐ มอบความสนับสนุนเป็นระบบแพทริออต “ให้เร็วที่สุด”


อนึ่ง ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวถึงการที่กองทัพรัสเซียเน้นโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนมากขึ้น คือส่วนหนึ่งของกระบวนการ “กำจัดกองกำลัง” และเป็นขั้นตอนทำให้ยูเครน “ปลอดอาวุธ” ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อเดือนก.พ. 2565


ผู้นำรัสเซียแสดงความเชื่อมั่น ว่าการโจมตีทางทหารไปที่โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับพลังงานของยูเครน จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความราบรื่นในการดำเนินงานของกองทัพ อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปูตินยืนยันว่า รัสเซียหลีกเลี่ยงการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน ในช่วงฤดูหนาว “ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม”


อีกด้านหนึ่ง สหรัฐเตรียมมอบช่วยเหลือทางทหารรอบใหม่ให้แก่ยูเครน เป็นวงเงิน 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 222,090 ล้านบาท ) มากที่สุดนับตั้งแต่สงครามกับรัสเซียเปิดฉาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 และเป็นส่วนหนึ่งจากงบประมาณที่สภาคองเกรสเพิ่งอนุมัติให้เกือบ 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2.25 ล้านล้านบาท ) หลังล่าช้ามานานหลายเดือน

ทั้งนี้ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวถึงการส่งมอบระบบแพทริออต ว่า “สหรัฐจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด” อย่างไรก็ตาม จะยังไม่มีการส่งมอบระบบยิงที่ใช้คู่กับขีปนาวุธแพทริออต หมายความว่า อาวุธชุดใหม่ซึ่งยูเครนกำลังต้องการเพิ่มอย่างมาก “จะได้รับไม่ครบชุด” .

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES