สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ว่า เครื่องบินขับไล่ มิก-31 ของกองทัพรัสเซีย ทำการประกบเครื่องบินเจ็ตทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ บี-1บี แลนเซอร์ ของกองทัพสหรัฐ ในเขตน่านฟ้าสากลเหนือทะเลญี่ปุ่น ทั้งนี้ อากาศยานทางทหารของสหรัฐไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของรัสเซียแต่อย่างใด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังเรือพิฆาต “แอดไมรัล ทริบุตส์” เผชิญหน้ากับเรือพิฆาต “ยูเอสเอส ชาฟี” เผชิญหน้ากัน ระหว่างที่กองทัพรัสเซียและกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) กำลังซ้อมรบร่วมกัน อยู่ในเขตน่านน้ำสากลของทะเลญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เรือของสหรัฐแล่นเข้ามาในรัศมี “อันตราย” เนื่องจากเป็นช่วงที่การฝึกซ้อมรบกำลังมีการใช้กระสุนจริง เรือของรัสเซียจึงส่งสัญญาณเตือนผ่านเคลื่อนวิทยุ อย่างไรก็ตาม เรือของสหรัฐชูธงเป็นสัญลักษณ์ตอบกลับมา ว่ากำลังจะมีเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นจากเรือ หมายความว่า ยังไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางหรือลดความเร็วของเรือได้
แม้ท้ายที่สุดแล้ว เหตุการณ์ผ่านพ้นไปด้วยการที่ไม่มีฝ่ายใดได้รับอันตราย แต่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเชิญผู้ช่วยทูตทหารสหรัฐเข้าพบแล้ว เพื่อประท้วงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ไม่ใช่การปฏิบัติอย่างมืออาชีพ” เนื่องจากเรือทั้งสองลำอยู่ห่างกันไม่ถึง 60 เมตร และการเผชิญหน้าดังกล่าวกินเวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง
ต่อมากองทัพสหรัฐออกแถลงการณ์ตอบโต้ ว่าข้อมูลที่รัฐบาลมอสโกเผยแพร่ออกมานั้น “ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง” โดยยืนยันว่า เรือชาฟีปฏิบัติตามกฎหมายการเดินเรือระหว่างประเทศทุกประการ และไม่ได้ขัดขวางการฝึกซ้อมรบของรัสเซียแต่อย่างใด.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
