เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงดักจับและทำการุณยฆาตหมูป่าเจ็ดตัว เนื่องจากทางการเริ่มรณรงค์เพื่อลดจำนวนของหมูป่าในเขตตัวเมืองของศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ หลังจากมีหมูป่ากัดตำรวจคนหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
มีการจับกลุ่มของหมูป่าในเขตที่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้พบเห็นชาวบ้านบางคนให้อาหารพวกมัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการควบคุมสัตว์ป่าที่พบเห็นบ่อยที่สุดในเมืองนี้
“เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ใช้ปืนยิงยาสลบเพื่อจับหมูป่าทั้ง 7 ตัว และกระทำการการุณยฆาตด้วยการฉีดยา” ตัวแทนกรมวิชาการเกษตร การประมงและการอนุรักษ์ฮ่องกงกล่าวในแถลงการณ์
กล่าวกันว่าบรรดาหมูป่าในเขตที่พักอาศัยซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางย่านการเงินไม่ถึง 30 นาทีทางรถยนต์นั้น “ชินกับการเดินไปตามถนนและมองหาอาหารจากผู้คนที่สัญจรไปมา หรือแม้แต่วิ่งไล่ยานพาหนะ”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หมูป่าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและกัดขาของเขา ทำให้เกิดบาดแผลลึก และกระตุ้นให้ผู้นำฮ่องกง แคร์รี แลม เตือนรัฐบาลว่าควรเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้ที่ให้อาหารพวกมัน
ในเวลาต่อมา หมูป่าตัวนั้นก็ตกจากที่จอดรถลงมาตาย โดยตกลงไปประมาณ 10 เมตร
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีรายงานถึงการโจมตีของหมูป่าประมาณ 30 ครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นโยบายของฮ่องกงก่อนหน้านี้คือการจับสัตว์ จากนั้นค่อยทำหมันและย้ายพวกมันไปยังพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ตามข้อมูลของรัฐบาล เมืองนี้กลายเป็นบ้านของหมูป่าประมาณ 3,000 ตัว และพวกมันไม่ใช่สายพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
บางครั้งจะมีคนเห็นหมูป่าบนรถไฟใต้ดิน หรือรอสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวที่ทางม้าลายบริเวณท่าเรือ ในช่วงที่โควิด-19 เริ่มระบาดใหญ่ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่คนฮ่องกงส่วนใหญ่ทำงานจากที่บ้าน มีผู้ถ่ายคลิปวิดีโอของครอบครัวหมูป่ากำลังอาบน้ำในน้ำพุ ซึ่งอยู่ระหว่างตึกระฟ้าของย่านการเงินและคลิปนั้นก็กลายเป็นกระแสไวรัล
การเปลี่ยนแปลงนโยบายทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิสัตว์ โรนี หว่อง โฆษกกลุ่มปกป้องหมูป่าฮ่องกงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาหมูป่าเกิดจากรัฐบาล ซึ่งล้มเหลวในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อจัดการกับสัตว์อย่างสันติ
“ตอนนี้สัตว์ต้องมาใช้กรรมแทน” หว่องกล่าว
แคร์รี แลม กล่าวว่าเธอเข้าใจดีว่าหลายคนในฮ่องกงชอบสัตว์ป่า แต่ “ในที่สุดแล้ว สังคมของเราต้องรับประกันความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย”
“ในฐานะรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบ เราจำเป็นต้องดำเนินการ” เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของเธอเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
เครดิตภาพ : Reuters
