เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวถึงกรณี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซื้อโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโอโฟน 12 จำนวน 111 เครื่องเป็นงบประมาณกว่า 2.6 ล้านบาท โดยยืนยันโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นอุปกรณ์คุรุภัณฑ์สำนักงานเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าข้าราชการในระดับปฏิบัติการ หรือซีต้นๆ เงินเดือนน้อยนิดหากต้องซื้อและชำระค่าโทรศัพท์ เพื่อใช้สำหรับงานราชการ อาจไม่สามารถซัพพอร์ตการทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งงานที่ทำคืองานหลวงที่ทำให้กับประชาชน จึงมีการจัดหาพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของข้าราชการรวมถึงข้าราชการการเมือง ทั้งนี้มองว่าโทรศัพท์บางประเภทอาจไม่รองรับกับการทำงานที่ต้องรับข้อมูลจำนวนมาก จึงทำให้มีมาตรฐานเดียวกัน ในการจัดซื้อและใช้ จึงเป็นที่มาของการจัดซื้อโทรศัพท์ไอโฟนคร้ังนี้

สำหรับประเด็นสังคม วิพากษ์วิจารณ์เรื่องซื้อไอโฟน 111 เครื่องจำเป็นต้องทบทวนระเบียบหรือไม่นั้น น.ส.นัทรียา กล่าวว่า ตนคิดว่าสังคมรับรู้มานานแล้วในการจัดซื้อคุรุภัณฑ์เหล่านี้ ซึ่งมีหลายคุรุภัณฑ์ที่สังคมไม่เห็นด้วย แต่ต้องเข้าใจว่าโทรศัพท์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ต้องใช้ในการทำงาน ยิ่งในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ถ้าหากต้องนั่งเขียนข่าวแล้วกลับไปส่งแฟกซ์ ถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่ได้ต่อว่าและเข้าใจอารมณ์ของสังคม แต่ขอให้สังคมเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือเหล่านี้ ทำให้งานราชการราบรื่น และเกิดประโยชน์กับประชาชนจริงๆ พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้มีการนำไปใช้ส่วนตัว หรือผิดวัตถุประสงค์ เพราะทุกครั้งจะมีการตรวจสอบเช็กยอดในการใช้ ซึ่งมีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.เข้ามาตรวจสอบ เป็นประจำ

ส่วนประเด็นมูลนิธิกระจกเงา โพสต์ข้อความขอบริจาคไอโฟนเครื่องเก่านั้น น.ส.นัทรียา กล่าวว่าขอให้ทางมูลนิธิกระจกเงา ทำหนังสือมา เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการบริจาค ซึ่งมีคณะกรรมการดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากทรัพย์สินเหล่านี้ เป็นทรัพย์สินของทางราชการ มีเลขคุรุภัณฑ์.