เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

#ทำไมต้องประชาธิปัตย์

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ถึงลงเอยกับพรรค ปชป. ทั้งที่หลายท่านมองว่า ปชป.อยู่ในช่วงขาลง หลังศึกเลือกตั้งปี 2562 ที่สูญพันธุ์ใน กทม. และดูแนวโน้มแล้วยังไม่มีท่าทีจะปฏิรูปพรรคได้
(ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ การให้สัมภาษณ์จากพรรค ปชป. ที่ดูเป็นสุภาพบุรุษ/สตรีมากขึ้น หลังทีมอภิสิทธิ์หมดอำนาจไป ซึ่งปัจจุบันคนที่สัมภาษณ์แรงๆ เกือบร้อยทั้งร้อยเป็นคนสายอภิสิทธิ์ทั้งสิ้น)

หากเราวิเคราะห์ดูพรรคต่างๆ ขั้วการเมืองต่างๆ ในเวลานี้จะพบว่า

1. พลังประชารัฐ

อยู่ในช่วงขาลง พรรคคะแนนนิยมตก ขุมกำลังและอำนาจอยู่ในมือบิ๊กป้อมและ ร.อ.ธรรมนัสเบ็ดเสร็จ ภาพลักษณ์ของพรรคไม่ค่อยจะสู้ดี รวมถึงมีความขัดแย้งภายในสูง (ขนาด พล.อ.ประยุทธยังมีแว่วๆ จะออกไปตั้งพรรคใหม่กับปลัดฉิ่ง)

ดังนั้น พปชร.จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในเวลานี้ ต่างกับช่วงหลังเลือกตั้งเสร็จใหม่ๆ ที่ยังพอมีแววที่ ดร.เอ้ จะสนใจ

2. พรรคเพื่อไทย

เป็นพรรคใหญ่ที่มีแววจะชนะการเลือกตั้งได้ จากการแก้บัตรเลือกตั้งเป็น 2 ใบ (ถ้าพรรคไม่แตก หรือมีคนออกไปจับมือกับฝั่ง ปชป.ที่หมดอำนาจในพรรค ไปตั้งพรรคใหม่ก่อนนะครับ)
แต่วัฒนธรรมของเพื่อไทยคือ รับคำสั่งและการตัดสินใจตรงจากนายใหญ่และนายหญิง แบบที่ทุกคนทั้งในพรรคและนอกพรรคทราบกันดี
จนทำให้คนเก่งหลายคน (เช่น นักธุรกิจที่เคยเปิดตัวจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ไปก่อนหน้านี้) ยังต้องถอย เพราะรับไม่ได้กับวิธีการทำงานในพรรค

ในขณะที่ ดร.เอ้ เป็นคนที่มีความเป็นตัวเองสูงมาก จนไม่มีวัฒนธรรมพรรคไหนที่จะไปครอบเขาได้ ประกอบกับเพื่อไทยก็หนุนหลังชัชชาติอยู่ (หลังจัดระเบียบพรรคใหม่) คงเป็นเรื่องยากที่จะดัน ดร.เอ้ เป็นตัวแทนได้

3. พรรคก้าวไกล

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ท่านเป็นนายกสภาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ ดร.เอ้ เคยทำงานกับท่านมาก่อน

ปัจจุบันพรรคก้าวไกลกับจุดยืนเรื่องสถาบันฯ นั้นชัดมาก จน ดร.เอ้ คงไม่สามารถไปร่วมงานได้ และในอนาคต พรรคก้าวไกลอาจโดนพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลในเวลานี้โดดเดี่ยว ดังนั้นตัวเลือกนี้ตัดไปได้เลย

4. พรรคประชาธิปัตย์

อยู่ในช่วงตกต่ำ แต่ในความตกต่ำนั้น ก็มีโอกาสเสมอ
ปชป.ต้องการขุนพลที่พลิกภาพลักษณ์ของพรรค และ ดร.เอ้ เองก็มองว่า ปชป.เป็นเวทีที่เขาจะฉายแสงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งทาง ปชป.เองก็คงต้องมีข้อตกลงแล้วว่าจะไม่เอาวัฒนธรรมของพรรค ไปครอบ ดร.เอ้ จนเขากลายเป็นนักการเมืองแบบเก่าใน ปชป.
พรรคต้องการคนกอบกู้ พลิกเกม
ผู้เล่นต้องการเวที และสถานที่จะโชว์ฝีมือ
ดีลนี้จึงลงตัว….

สุดท้ายก็ต้องดูกันต่อครับว่าความคาดหวังของ ดร.เอ้ และ พรรค ปชป.จะสำเร็จได้หรือไม่

*** หมายเหตุ : โพสต์นี้เขียนเพื่อวิเคราะห์การลงเอยระหว่าง ปชป.กับ ดร.เอ้เท่านั้นนะครับ ส่วนเรื่องตัวบุคคลใครทำอะไรมา ดีไม่ดี ชอบไม่ชอบ แต่ละท่านไปตัดสินใจกันเอาเองวันเลือกตั้งครับ