@ กลายเป็นคำถามที่ “แหลมคม” ของคนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงจำนวนผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” ของ จ.สงขลา ที่ผลการ “รายงาน” จาก ศบค. ที่มีตัวเลขตรวจพบผู้ติดเชื้อวันละ 400-500 คน เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน…ประเด็นคือวันนี้ เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา ในตำแหน่ง ผอ.ศบค. ต้องให้เจ้าหน้าที่รายงานให้ชัดเจนว่า รพ.สนาม, โรงแรม ที่ใช้ในการกักตัวมีเท่าไหร่ กี่ห้อง กี่เตียง สัมพันธ์กับคนป่วยที่เข้าใหม่ กับคนป่วยที่หายและกลับบ้านได้ และผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ มีหรือไม่มีที่กักตัวอยู่บ้านไม่ได้อยู่ใน รพ.สนามและในโรงแรม เพื่อป้องกันข้อ “ครหา” ในเรื่อง “ผลประโยชน์” จากงบประมาณ “รายหัว” ของผู้ป่วย ที่มีการตั้งข้อสังเกตจากสังคมมากๆ ทุกขณะ….

@ มีโอกาสที่จะ “เปิดเมือง” เหมือนอย่างจังหวัดท่องเที่ยวและเมืองเศรษฐกิจกับเขาไหม นี่ก็เป็นคำถามจาก นักธุรกิจ พ่อค้า แม่ค้า ในเมืองหาดใหญ่ และชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ “ล่องลอยตามลม” เพราะ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อแต่ละวันของ จ.สงขลา ไม่ลดลงเลย หาก ตัวเลขยังเป็นเช่นนี้ โอกาสที่จะเปิดเมือง เพื่อ “สวัสดีปีใหม่ 2565” ของคน จ.สงขลา “ริบหรี่” เต็มทน ก็คงต้อง “สื่อ” ไปยัง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ผอ.ศบค.ส่วนหน้า ซึ่งสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อใน จ.ยะลา, นราธิวาส ลงได้แล้ว จะมีมาตรการใดที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อของ จ.สงขลา ลงได้ เพื่อให้ ผู้ที่เป็น “คนค้าคนขาย” ได้กลับมาทำมาหากินกันอีกครั้ง….

@ จากการจับกุม “แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ได้ 1 ราย ขณะที่นำอาวุธปืนที่ กลุ่มก่อเหตุ ยิงรถยนต์สายตรวจ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ไป “เก็บซ่อน” ซึ่ง “แนวร่วม” ผู้ถูกจับกุม รับสารภาพ ถึงขั้นตอนการเข้า “โจมตี” เจ้าหน้าที่ หลังเสร็จการ “โจมตี” ก็มีการส่งอาวุธให้ “แนวร่วม” อีกส่วนหนึ่งนำไป “ส่งต่อ” ให้ “แนวร่วม” กลุ่มหนึ่ง นำไปยังที่เก็บอาวุธ ซึ่งเป็นอาวุธ “กองกลาง” เพื่อที่จะใช้ “ปฏิบัติ” โดย “แนวร่วม” ชุดอื่นๆ ต่อไป ทั้งหมดของคำ “สารภาพ” เห็นได้ชัดเจนว่า “บีอาร์เอ็น” ยังใช้แผนงานแบบเดิมๆ ที่ใช้มาแล้วกว่า 10 ปี ปัญหาของการที่ “หน่วยงานความมั่นคง” ไม่สามารถป้องกันเหตุ และ “เผด็จศึก” กองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ได้ จึงไม่ใช่อยู่ที่ “แนวร่วม” เก่ง แต่เป็นที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ไม่มีการปรับแผนปฏิบัติการ เพื่อการ “เอาชนะ” แนวร่วมขบวนการบีอาร์เอ็นต่างหาก ก็ต้องดูกันต่อไปว่า เวลาที่เหลืออีก 1 ปีของ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาคที่ 4 จะมี “ของ” อะไรมาโชว์ เพื่อ เผด็จศึก กับ บีอาร์เอ็น เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจสำหรับคนในพื้นที่….

@ แต่เหนื่อยนะ เพราะ เจ้าหน้าที่รัฐเอง ก็ยังไม่หยุดสร้าง “เงื่อนไข” ไป “เข้าทาง” ของ บีอาร์เอ็น ล่าสุด “โซเชียล” ทั้งของภาคประชาชน และ “ปีกการเมืองของบีอาร์เอ็น” นำเอาเหตุการณ์ที่ ตำรวจพลร่วม ที่เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ในพื้นที่ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา มา “ถล่ม” เจ้าหน้าที่ “ยับเยิน” จาก สาเหตุที่ ส.ต.ต.นายหนึ่ง “คุกคาม” ประชาชนในพื้นที่ ด้วยการเรียกให้ “จอดรถ” เข้าไปนั่งในรถ และขอเงิน 10,000 บาท แบบ “ไม่มีปี่มีขลุ่ย” จน เจ้าของรถต้องกระโดดหนีขอความช่วยเหลือจากผู้ที่ขับรถผ่านมา…แม้ว่า ผบ.หน่วยของ ส.ต.ต.นายนี้ ได้นำผู้ก่อเหตุไปขอโทษ และทำความเข้าใจกับผู้ถูก “คุกคาม” และคนในพื้นที่ แต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะ “บีอาร์เอ็น” นำเรื่องที่เกิดขึ้น ถามถึง หน่วยงานความมั่นคงของรัฐไทย เพื่อถามหาความรับผิดชอบ ผ่านทาง “โซเชียลมีเดีย” จนมีการ “แชร์ต่อ” เต็มพื้นที่….  สถานการณ์ความไม่สงบใน จ.ชายแดนภาคใต้ ณ วันนี้ นอกจากการ “ก่อการร้ายบนดิน” และงาน “ใต้ดิน” แล้ว บีอาร์เอ็น เน้นหนักในเรื่องการทำสงคราม “ไอโอ” เป็นด้านหลัก ในขณะที่งานด้าน “ไอโอ” ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เขาไม่เรียกว่า “ไอโอ” แต่น่าจะเป็น สงคราม “อ้อแอ้” เสียมากกว่า ดังนั้นถ้าเราไม่ถนัดในเรื่องของ “ไอโอ” ผู้บังคับบัญชา ต้องอย่าให้ปล่อยให้ “ลูกน้อง” สร้าง “เงื่อนไข” เพื่อที่จะได้ไม่กลายเป็น “เหยื่อ” ให้กับ บีอาร์เอ็น นำไปขยายผล…. 

@ การปรับเปลี่ยนบุคลากร ของ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในครั้งนี้ จะมีรองเลขาธิการครบตามโครงสร้าง และมีการ โยกย้าย ปรับเปลี่ยน ผอ.สำนักฯ และ กลุ่มงานภายใน ซึ่งน่าจะทำให้งานของ ศอ.บต. ไหลรื่น และตอบสนอง แนวทางของ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.ได้เร็วขึ้น แม้ว่าวันนี้ งานของ ศอ.บต.จะเน้นในด้าน “อำนวยการ” และ “บริหาร” ไม่ได้เน้นในการใช้งบประมาณในการลงไป “ปฏิบัติการ” แต่ ศอ.บต. ยังเป็นหน่วยงานหลักในด้านการ “พัฒนา” เพื่อที่จะ “ตอบโจทย์” การสร้างเศรษฐกิจ การสร้างคุณภาพชีวิต เพื่อการ “อยู่ดีกินดี” ของคนในพื้นที่….และนโยบายที่ต้องติดตามคือการการหาคนจนให้พบ และเข้าไปดูแลตามนโยบาย  “1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือน” ของ ศอ.บต. ที่นำร่องใน 2 อำเภอของ จ.นราธิวาส เป็นโครงการที่ “ท้าทาย” และถูก “วิพากษ์วิจารณ์” มาก จาก อดีต “นักปกครอง” ระดับ ผวจ. ที่ คลุกคลีอยู่ในพื้นที่ แต่เชื่อว่า ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความ “ทุ่มเท” และ “ตั้งใจ”…..และบรรทัดนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับ พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ ผช.เลขาธิการ ศอ.บต. ที่ขึ้นชั้น ผช.เลขาฯ ไม่กี่วัน ก็ย้ายไปเป็น ปลัดจังหวัดพังงาตามงานที่ถนัด คือเส้นทางของ นักปกครอง….

@ ในการประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.กระบี่ ที่ผ่านมา ขจรศักดิ์ โสภาเจริญ ผวจ.ตรัง นำ 4 โครงการ งบประมาณ 400 กว่าล้านบาทเพื่อขอสนับสนุนจาก ครม.สัญจร เช่นการพัฒนาศูนย์อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งเป็น 1 ใน 4 โครงการที่สำคัญ หากได้รับการอนุมัติอาจจะทำให้พะยูนฝูงสุดท้ายมีโอกาสเพิ่มจำนวนขึ้น มิใช่รอวันที่จะ “สูญพันธุ์” อย่างในปัจจุบัน…

@ ก็ยังน่าเป็นห่วงสำหรับ “โควิด-19” ที่ จ.ตรัง เพราะ คลัสเตอร์ใหม่ๆ ยังเกิดขึ้นตลอดเวลา แต่การบริหารของ ศบค. จ.ตรัง ก็รวดเร็ว ทั้งมาตรการปิดตลาด ปิดชุมชน พ่นยาฆ่าเชื้อ เจ้าหน้าที่ สาธารณสุข เทศบาล อบจ. ขยันขันแข็งกันทุกฝ่าย ก็พอที่จะอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า “จะเอาอยู่”….

@ คดี “เสี่ยโจ้” หรือ นายสหชัย เจียรเสริมสิน ผู้ถูกตั้งข้อหาเป็น “ขาใหญ่” ในวงการ “ค้าน้ำมันเถื่อน” ในทะเลอ่าวไทย และมีคดี “ค้างเก่า” ซึ่งถูกศาล จ.ปัตตานี พิพากษา จำคุก 1 ปี 9 เดือน ซึ่งเป็นคดีเดียวที่ “เสี่ยโจ้” ต้องมารับโทษ โดยที่หมดสิทธิที่จะ “อุธรณ์” และ “ฎีกา” เพราะ “เสี่ยโจ้” หนีจากศาล จ.ปัตตานี ทันทีที่ถูก “พิพากษา” ตั้งแต่ปี 2559 …การ “รื้อฟื้น” คดี “เสี่ยโจ้” ขึ้นมาใหม่ ไม่มีผลอะไรกับ “เสี่ยโจ้” ซึ่งก็เหมือนกับ ผู้ต้องหาอื่น ที่ถูกตัดสินในเรื่อง “ทุจริต” ที่หลบไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้ “เสี่ยโจ้” อยู่ดี มีสุข นั่งบัญชาการ ค้าไม้เถื่อน น้ำมันเถื่อน อยู่ที่ “เกาะกง” ประเทศกัมพูชา มีบัตรประชาชนที่เป็นคนสัญชาติกัมพูชา แถมยังลือกันหึ่งว่าสิ้นเดือน เจ้าหน้าที่จากเมืองไทย ก็ข้ามไปรับ “ส่วย” กลับมา แบ่งปันกันอย่าง “เปรมปรีดิ์” ผิดกันที่ “เสี่ยโจ้” คงจะงดเดินทางเข้าเมืองไทยสักระยะหนึ่งก็เท่านั้น….เพราะสังเกตเห็นว่า หลังจากที่ “เสี่ยโจ้” ถูกจับ และ ถูกอัยการปล่อยตัว เพราะไม่มีหลักฐานในการ “อายัด” ตัวในคดี หนีศาล จ.ปัตตานี ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.นราธิวาส จนถึง จ.ชุมพร ของ “เสี่ยโจ้” ยังมีการลักลอบขนถ่ายน้ำมันกลางทะเลขึ้นบกในทุกพื้นที่ ที่ จ.สงขลา เสี่ย ช. แห่งสิงหนคร เป็นผู้รับผิดชอบ ที่ จ.นครศรีธรรมราช มี “โกหวัด” และ สัก 3 เค เป็นผู้ดูแล ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี มี นักการเมืองท้องถิ่นระดับจังหวัด เป็นทั้ง “หุ้นส่วน” และ ผู้ให้การ คุ้มครอง และอย่าบอกนะว่า คนเหล่านี้ กองทัพภาคที่ 4 ทัพเรือภาค 2 กองบังคับการตำรวจน้ำ ผบช.ภ.8-9 และ หน.ศปนม.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่รู้จัก…

@ แต่น่าเสียดายที่ ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนของประเทศไทย ไม่เคยที่จะดำเนินคดีกับ ข้าราชการ “ทุจริต” อย่างจริงๆ จังๆ การประกาศที่จะทำลายล้างการ “ทุจริต” ของเจ้าหน้าที่ ของนายกรัฐมนตรี  เป็นเรื่องการเล่น “ปาหี่” เท่านั้น เพราะถ้า รัฐบาล เอาจริง ในการยึด บัญชีการ “จ่ายส่วย” จากบ้าน “เสี่ยโจ้” ที่ จ.ปัตตานี เมื่อปี 2557 ซึ่งเป็นบัญชีที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะ มีชื่อเจ้าของบัญชี มีหมายเลขบัญชี มีชื่อธนาคาร มีตัวเลขกลมๆ ที่จ่ายเดือนละ กี่ล้าน กี่แสน แถมมีชื่อของ “หลังบ้าน” ของข้าราชการเป็นผู้ “รับส่วย” ถ้า “เอาจริง” สืบสวนเส้นทางการเงินง่ายยิ่งกว่า “ปอกกล้วย” และจะมีคน “ติดคุก” มากกว่า 30 คน ที่ล้วนเป็นคนใน “เครื่องแบบ”….

@ วันนี้ก็มีเสียงเล่าลือกันว่า มี “นายตำรวจ” กลุ่มหนึ่งที่สังกัด “ภาค 9” เก็บ “ส่วย” อย่างเดียวรอช้า เลย “จัดการ” รวมกลุ่ม เป็น พ่อค้า บุหรี่ ต่างประเทศเสียเอง แบบมือซ้ายรับ “ส่วย” มือขวาค้าของเถื่อน ทุกอย่างไปได้อย่าง “ฉลุย” เพราะมีทั้ง “เครื่องแบบ” และ “กฎหมาย” อยู่ในมือเพื่อใช้ในการแสวงหาผลประโยชน์ เรื่องอย่างนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ท่านไม่รู้หรอกเพราะงานท่านเยอะ…..

@ กำลังคอยดูความเปลี่ยนแปลงในวงการ “ค้ามนุษย์” หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แต่งตั้งให้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดปราบปรามการค้ามนุษย์…แน่นอน “ต้นทาง” ของ “คนเถื่อน” ที่ถูกนำเข้าประเทศอยู่ที่ ชายแดนภาคเหนือ “อีสาน” และ ภาคใต้ที่ จ.ระนอง, ชุมพร และ ประจวบฯ แต่ปลายทางในการส่งออก การค้ามนุษย์ 50%  อยู่ที่ ประเทศมาเลเซีย และ เส้นทางในการ “ข้ามแดน” เพื่อไปยัง “มาเลเซีย” อยู่ที่ ชายแดน สะเดา, สะบ้าย้อย, นาทวี จ.สงขลา ส่วนที่ จ.นราธิวาส อยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก และที่ อ.เมือง, ควนโดน จ.สตูล มี “นาง“ และ “นาย“ คนไหน เป็น เอเย่นต์  ในการค้ามนุษย์ ตำรวจมีบัญชีรายชื่อ ที่ตั้งสำนักงานพร้อมเสร็จ แต่ วิธีการที่ทำมาโดยตลอดคือ ไล่จับ “คนเถื่อน” แต่ สาวไม่ถึง “ตัวการ” ครั้งนี้ คงจะได้พิสูจน์ฝีมือของ “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” ขวัญใจ “ลุงป้อม” ว่าจะ สร้างผลงานให้ “ลุงป้อม” ได้แค่ไหน ก็ได้แต่หวังว่าคงไม่มี “ปาหี่” แสดงให้ดูนะ….

@ สุดท้ายเรื่อง “ขบวนการขโมยรังนก” ที่ เกาะสี่เกาะห้า ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ก็จบลงแบบ “หัวมังกุดท้ายมังกร” อย่างที่ เคยเขียนไว้ เพราะ วันนี้ เจ้าหน้าที่ทำแค่การสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหา 38 คน ส่วนคนร้ายที่ยังเหลืออยู่เช่น “ผู้รับซื้อของโจร” ไม่มีการกล่าวถึง รวมทั้งผู้ “บงการ” ตัวจริง ก็ไม่มี เพราะ ขาดผู้ที่ “ซัดทอด” และที่สำคัญ ผู้ต้องหาหลายคนที่ “แต่งเครื่องแบบ” ยังรับราชการอยู่ในตำแหน่งเดิม พื้นที่เดิม ทั้งที่มีการแจ้งข้อหา ทั้งข้อหา “ทุจริต” และ ข้อหา “ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” เห็นชัดยังว่า ประเทศนี้มีความ “เหลื่อมล้ำ” ในทุกด้าน “กฎหมาย” เล่มเดียวกัน แต่ บังคับใช้ไม่เหมือนกัน นี่คือความ “อยุติธรรม” ของสังคม….

@ ยังอยู่ในหน้าฝนของภาคใต้ ซึ่งในปีนี้ ฝนตกตั้งแต่ต้นฤดู ทำการป้องกันดีกว่าที่จะมาแก้ปัญหาทีหลัง เห็นด้วยกับที่ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เดินสายในพื้นที่ภาคใต้ ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด บรรเทาสาธารณภัย อบจ. เทศบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูความพร้อม และเร่งการขุดลอก แม่น้ำ ลำคลอง เปิดทางให้กระแสน้ำไหลได้สะดวกเพื่อให้น้ำไหลลงที่ลุ่มไหลลงทะเลแทนที่จะท่วมบ้านเรือนประชาชน ไม่มีใครอยากได้ของแจก อยากได้เงินเยียวยา แต่ทุกคนพอใจ และขอบคุณที่แก้ปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนได้ผล….ตัวอย่างของความพร้อม น้ำท่วมหลายพื้นที่ของ จ.สตูล แต่ เจ้าหน้าที่ ท้องที่ ท้องถิ่น หน่วยงานที่รับผิดชอบ มีความพร้อม ในการดูแลผู้เดือดร้อน ผู้ที่ได้รับความเสีย ซึ่งทั้งหมด ทั้งปวง ก็ต้องชื่นชม เอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.สตูล…

@ เสร็จจากโยกย้าย ผู้ว่าฯ ผู้ตรวจฯ ต่อไปก็เป็นการโยกย้ายระดับ ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด และ นายอำเภอ ของ กรมการปกครอง ข่าวว่า ไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมือง สงขลา และ สุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา จ.สงขลา มีอาวุโสที่จะได้ขึ้นเป็นปลัดจังหวัด ส่วนนายอำเภอ ก็คงจะขยับกันตามระนาบ โดยเฉพาะตำแหน่ง นายอำเภอสะเดา นั้น แม้จะมีเรื่อง “โควิด-19” เข้ามาแทรกเป็น “ยาดำ” แต่ ก็ยังเป็นพื้นที่ “ทำเลทอง” ที่ ข้าราชการหลายฝ่าย เช่น ศุลกากร, สรรพสามิต ตำรวจ “ปกครอง” ต่าง “หมายมั่นปั้นมือ” ที่จะมาเป็น หัวหน้าหน่วย สักครั้งในชีวิต….

@ วันอาทิตย์ 28 พ.ย.นี้ คือวันเลือกตั้ง สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ หลายพื้นที่มีการแข่งขันกันสูง หลายพื้นที่มีการใช้เงินเพื่อ “ซื้อเสียง” แบบ “ปูพรม” โดยเฉพาะใน หลายพื้นที่ของ จ.สงขลา เช่นในหลายตำบลของ อ.สะเดา ที่มีเสี่ยงเล่าขานหนาหูคือ พื้นที่ อบต.ปริก อ.สะเดา ซื้อกัน หลักพันต่อเสียงต่อคน อย่างไรเสีย พะเยีย ศิริโชติ ผอ.กกต. เร่งสั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ แม้จะจับใครไม่ได้แต่อย่างน้อย ชาวบ้าน และ นักเลือกตั้ง ทั้งหลาย ก็จะได้รู้ว่า บ้านนี้เมืองนี้ ยังมีหน่วยงานที่เรียกว่า กกต. อยู่นะ จะซื้อ จะขาย ถ้าถูกจับได้ ยังมีโทษรออยู่…แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ.

—————————————————————– 

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

พัฒนาสัมพันธ์สามฝ่าย…  การพัฒนาสัมพันธ์สามฝ่าย ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา โดยมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9  ร่วมกันนำเสนอผลการปฏิบัติงานในปี 2565 

กฐินสามัคคี…   นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ร่วมทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2564 ณ วัดสามกอง หมู่ที่ 2 ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยยอดเงินกฐินสามัคคีทั้งหมดจากที่มีผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมทำบุญถวายจตุปัจจัย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,396,851 บาท ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้มาตรการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ขอให้ได้กุศลผลบุญโดยทั่วกัน 

ควันหลง ครม.สัญจร…  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี ถ่ายภาพร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เข้าร่วมประขุม ครม.สัญจร ที่ จ.กระบี่ พร้อมเสนอโครงการพัฒนาเศรษกิจสังคมจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน รวม 7 โครงการ กรอบวงเงิน 494 ล้านบาท 

หนังสือพระราชทาน…   ที่ โถงชั้น 3 อาคาร 3 ศาลากลางจังหวัดยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานหนังสือ “เรื่องเล่าชาวคชานุรักษ์” จำนวน 1,000 เล่ม โดยมอบผ่านให้กับอำเภอที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า จำนวน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เบตง อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต โดยมีส่วนราชการ สำนักงานจังหวัดยะลา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดยะลา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดยะลา หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 

เปิดอบรม…  ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการอบรมให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสูตร ”การขายสินค้าออนไลน์ ธุรกิจของคนรุ่นใหม่” ประจำปีงบประมาณ 2565 รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2564 โดยจัดอบรมในรูปแบบห้องเรียนออนไลน์ ผ่านระบบโปรแกรม ZOOM ซึ่งมีผู้สนใจ สมัครเข้าร่วมรับการอบรมเป็นจำนวนมาก โดยมี ปรินดา ปาลาเร่  นิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายกฯ ปรีชัย มาละวรรณโณ ที่ปรึกษาฯ ปิยนันท์ สิงห์ทอง รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมทั้งวิทยากรผู้ให้ความรู้ร่วม 

เปิดเส้นทางการท่องเที่ยว “เขา ป่า นา เล วิถีชุมชน วิถีท่องเที่ยว”…  อำพล พงษ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ นพพร หนูเพชร นายอำเภอสะบ้าย้อย มาให้กำลังใจชุมชนเพื่อร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ชุมชนก็พร้อมรองรับการทำงานด้านการท่องเที่ยวที่จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้… 

ประชุมปฏิบัติการ…   ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลเกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา กองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลเกาะแต้ว จัดประชุมปฎิบัติการหลักสูตร “พัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ ผู้แทนสมาชิกและเครือข่าย” ขึ้นโดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ สมาชิกสภาเทศบาล กรรมการ แกนนำ ร่วมกว่า 30 คน นายอรัญ คงนวลใย ประธานที่ปรึกษาเป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมบันทึกภาพเป็นที่ระลึก 

ตรวจความพร้อมก่อนเปิดเรียน…   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมหน่วยงานการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส, ยะลา เพื่อตรวจความพร้อมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา ก่อนการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 ธ.ค.ที่จะถึง 

บุคคลต้นแบบ…  พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา รับมอบถ้วยรางวัล ข้าราชการดีเด่น ต้นแบบ “มูลนิธิบุณยะจินดา” จาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ประธานมูลนิธิ ซึ่งเป็นประธานในพิธี ณ ห้องประชุม สนง.ตร.แห่งชาติ 

มอบอุปกรณ์ดนตรี…  อำนวย ศรีษะแก้ว ผช.เลขาธิการ ศอ.บต.เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์ดนตรี แก่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชาย แดนภาคใต้เพื่อให้เยาวชนได้แสดงออกด้านดนตรีและการทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน ณ อาคารชั้น 2 ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมืองยะลา 

ติดตามปัญหาน้ำ…  นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่เทศเมืองเขารูปช้าง อ.เมือง สงขลา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยมี จักรธร สุริแสง นายกเทศบาลเมืองเขารูปช้าง นำดูพื้นที่ท่วมซ้ำซากเพื่อหาทางแก้ 

สร้างกุศลช่วยเพื่อนมนุษย์…   เฉลิมชัย ครุอำโพธิ์ เจ้าของธุรกิจโรงโม่หิน เขาบันไดนางศิลา จำกัด อ.บางกล่ำ จ.สงขลา พร้อมบุตรชาย ด.ช.อุกิจ ครุอำโพธิ์ มอบรถยนต์ตู้เอนกประสงค์ ราคา 1 ล้านบาทเศษ และเงิน 4 แสนบาท เพื่อสร้างห้องตรวจความดันลบเพื่อชีวิตเพื่อนมนุษย์และเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับนางดาวน้อย เยี่ยมแสง มารดาของ ด.ช.อุกิจ ใหักับ รพ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยมี นพ.สมเกียรติ วรยุทธการ ผอ.รพ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้รับมอบ 

ช่วยเหลือ… พล.ต.ปราโมทย์  พรหมอินทร์ ผบ.มทบ.41/ผอ.ศบภ.มทบ.41 ได้เดินทางลงพื้นที่และมอบสิ่งของยังชีพให้พี่น้องประชาชนชุมชนท่าช้าง ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย ทั้งนี้ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ มทภ.4ได้สั่งการศบภ.หน่วยทหารทั้ง10ศูนย์ของกองทัพภาคที่4เร่งรัดเข้าสำรวจพื้นที่และระดมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้สามารถก้าวข้ามวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ 

ติดตามงาน…  กระจายศักดิ์ ศรีสงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบ่อตรุพร้อมด้วย อุดม สมบูรณ์มาก และ ณฑัต พรุเพชรแก้ว รองนายกเทศมนตรี ลงพื้นที่ติดตามงานในโครงการปรับปรุงผิวจราจรแบบ AC ถนนสายเทศบาล 18 หมู่ที่ 3 ตำบลบ่อตรุ โดยการปรับปรุงผิวจราจรแบบแอสฟัลติกคอนกรีต ความยาว 1000 เมตร เพื่อความสะดวกในการสัญจรของพี่น้องชาวบ่อตรุต่อไป 

ช่วยสังคม…   ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย, เลขานุการคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้น่วมกับ สื่อมวลชน ทุกแขนงใน 3 จังหวัด นำส่งของจำเป็นที่ได้รับมอบจากผู้มีกุศลจิตซึ่งใช้ในการป้องกันการติดเชื้อ “โควิด-19” มอบให้กับ เจ้าหน้าที่ รพ.สต. อสม.ผู้นำท้องที่ ซึ่งเป็นด่านหน้าในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี 

หนีไม่พ้น…   ทหารชุด ชป.นราธิวาส จับกุม แนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน นายอามีร ดอแต พร้อมปืนยิงเร็ว ได้ทันควัน ขณะกำลังนำอาวุธปืนไปซ่อน หลังกลุ่มแนวร่วมไปซุ่มโจมตี รถสายตรวจตำรวจ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส สารภาพ ร่วมก่อเหตุ 6 คนด้วยกัน