โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานานสำหรับนักแสดงหนุ่มหน้าหวาน ทอย-ปฐมพงศ์ เรือนใจดี ที่ผ่านบทบาทมาแล้วมากมายและทำได้ดีทุกๆ ผลงาน จนทำให้มีแฟนคลับคอยซัพพอร์ตอยู่ตลอด ล่าสุดหนุ่มทอยหอบผลงานใหม่ “ร่านดอกงิ้ว” ทางช่อง 8 มาฝากกัน ซึ่งเป็นการออกมาร่วมงานต่างค่ายเป็นครั้งแรก แถมได้ร่วมงานกับนักแสดงเบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย จนเจ้าตัวยกให้เป็นประสบการณ์นอกค่ายที่สุดประทับใจ แถมได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองในอาชีพนักแสดงอีก

งานนี้ yimyim เลยไม่พลาดนัดแนะหนุ่มทอยมาอัพเดทเรื่องราวต่างๆ กันเสียหน่อย ไม่อยากให้พลาดเลยตามมาจ้าตามมา ><

แนะนำตัวสักหน่อย?

“สวัสดีครับผมทอย-ปฐมพงศ์ เรือนใจดี สวัสดีแฟนๆ เดลินิวส์ออนไลน์นะครับ ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข เดินทางไปไหนก็ขอให้ปลอดภัยนะครับ (ยิ้ม)”

ผลงานครั้งแรกกับช่อง 8 คาแรกเตอร์เป็นแบบไหน?

“เอาจริงๆ เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับทางช่อง 8 ผมต้องขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ที่ให้โอกาส ถือว่าเรื่องนี้เป็นละครหลักๆ ที่ผมออกมาเล่นนอกค่ายด้วย แล้วบทบาทก็ค่อนข้างท้าทาย ตัวผมเองรับบทเป็น โยธิน ลูกชายของพี่ต้อม-ณหทัย แล้วก็เป็นหลานของ พี่เบนซ์-ปุณยาพร ที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงพยาบาล แต่เราถนัดทางด้านการโรงแรม เพราะว่าเราเรียนมา เราก็เลยเข้ามาพัวพันกับทางพี่ยุ้ย-จีรนันท์ ก็คือเรามาสมัครงานเป็นผู้จัดการโรงแรม แล้วอีกอย่างก็คือ ตัวโยธินชอบนางเอก ที่รับบทโดยน้องนนนี่-ณัฐชา ก็คือชอบมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเราทั้งคู่ก็จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราบังเอิญมาเจอกัน ก็เลยตั้งมั่นกับตัวเองว่า เราจะทำตามสัญญาที่เราเคยสัญญากับเขาเอาไว้ สุดท้ายโตมา เราก็มีโอกาสได้เจอกัน สำหรับคาแรกเตอร์ตัวโยธิน ก็จะมีความมุ่งมั่น แล้วก็จะมีความเด็ดขาดกับการตัดสินใจ เป็นคนที่สนุกสนาน แต่ถ้าเข้าสู่โหมดจริงจังก็จะจริงจังสุดๆ ไปเลยครับ”

เรียกว่าเป็นตัวละคร สีขาว ของเรื่องนี้ใช่ไหม?

“ถ้าถามถึงความรุนแรงสำหรับตัวโยธิน ก็คือแทบจะไม่มีเลย ในมุมผมจะเป็นรักกุ๊กกิ๊ก เหมือนเรารักเขา เราอยากช่วยเขา ทั้งงาน ทั้งเรื่องที่บ้าน แต่พอเรื่องมันดำเนินไปเรื่อยๆ ปรากฏว่า เรื่องมันก็มาพัวพันกับครอบครัวเราด้วยเหมือนกัน เลยทำให้มีเหตุการณ์ดราม่าหลายอยากแทรกเราเข้ามา”

ทำไมถึงรับเรื่องนี้ ชอบหรือไม่ชอบในตัวละครนี้ อย่างไรบ้าง?

“ส่วนใหญ่เวลาที่ผมเลือกที่จะรับงาน ผมอยากได้งานที่ท้าทายตัวเอง แล้วก็แปลกใหม่ มากกว่า เรื่องนี้ไม่มีไม่ชอบเลย ถ้าเลือกรับแสดงว่าเราชอบแล้วครับ และก็ท้าทายเรามาก สนุกมากครับ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของละครเรื่องนี้”

ระหว่างตัวละคร กับตัวเรา เหมือนหรือต่างอย่างไรบ้าง?

“มีความคล้ายอยู่บ้างนะครับ เล่นคือเล่น งานคืองาน อันนี้ก็จะมีความคล้ายกับตัวเองพอสมควร ด้วยความที่ตัวโยธินก็จะมีความขี้เล่น แล้วทางผู้กำกับเขาก็ให้พื้นที่ในการครีเอทบางจังหวะของเรา มันก็เลยจะมีความเป็นตัวเราเข้าไปด้วย สิ่งที่ได้จากตัวละครตัวนี้หลักๆ เลย น่าจะเป็นเรื่องของทำดีได้ดีแหละครับ ทำอะไรไม่ดี ก็จะได้แบบนั้น คือเรื่องนี้มันเป็นเรื่องของการแก้แค้นกันไปมา แต่สุดท้าย คนที่เป็นตัวก่อเรื่อง ก็จะได้รับโทษอย่างสาสมตามที่ควรจะเป็น ส่วนในด้านของโยธิน แฟนๆ จะได้ในเรื่องของการเลี้ยงดูจากแม่ เพราะแม่ของเขาเป็นแบบอย่างที่ดี อบรมลูกมาดี ที่สำคัญทัศนคติที่ให้ลูกมองโลกในมุมกว้าง และมีพลังบวก จึงทำให้โยธินเลยรับสิ่งดีๆ มาจากแม่ครับ ซึ่งผมมองว่ามันสำคัญมาก”

สนุกมากขนาดไหน สำหรับเรา?

“ก่อนอื่นเลยคือนักแสดงครับ มีแต่นักแสดงรุ่นพี่ รุ่นใหญ่มากฝีมือ คือแค่นี้เราก็คุ้มแล้ว ยิ่งมาบวกกับบทละครที่ค่อนข้างแรง แล้วทุกคนก็เต็มที่จริงๆ ส่วนตัวผมก็ได้ดูผลงานของพี่ๆ ทุกคน อย่าง พี่ออย ธนา ส่วนใหญ่เขาก็จะเล่นเป็นคอมเมดี้เนอะ มาเรื่องนี้ก็ค่อนข้างรุนแรง มาพี่เบนซ์ เท่าที่ดูมาก็จะมีบู๊บ้าง อันนี้มาถึงก็รุนแรงเหมือนกัน ส่วนพี่ยุ้ยเขาก็ดราม่าจัดเต็มอยู่แล้ว ส่วนพี่ธันน์ คือใครจิ้นคู่นี้ เรื่องนี้เข้าก็เข้าคู่ด้วยกันจริงๆ อย่างตัวผมมีหลายซีนที่ยืนมอง ว่า เอ๊ะ นี่พี่เล่นเป็นตัวละคร หรือเป็นสามี ภรรยากัน (หัวเราะ) ก็น่ารักดีครับ คือโดยรวมเรื่องนี้ ดีมาก แต่ความรุนแรงมีแน่นอน ความสนุกมีแน่นอน ก็อยากให้ดูเพื่อความบันเทิงนะครับ”

ร่วมงานกับน้องนนนี่ เป็นอย่างไรบ้าง หลายคนบอกว่าน่ารัก เคมีเข้ากันมากๆ?

ก็ต้องขอบคุณมากๆ นะครับที่ชื่นชมผมกับน้อง ดีใจครับ น้องเขาเก่งมากนะครับ ซีนดราม่าเขาก็เอาอยู่เหมือนกัน ไม่ธรรมดาครับ น้องคนนี้ เอาจริงๆ ผมเคยรู้จักกับน้องนนนี่มาก่อนนะครับ เพราะเคยเรียนคลาสแอ๊คติ้งด้วยกัน เมื่อ 9-10 ปีที่แล้ว ตั้งแต่น้องอายุ 10 กว่า ครั้งนี้ก็มีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีก ก็ดีใจครับ”

เป็นครั้งแรกได้มาเล่นกับนักแสดงรุ่นใหญ่หลายๆ คนรวมกัน เป็นอย่างไรบ้าง กดดันไหม?

“ใช่ครับ ดีใจครับที่ได้ร่วมงานครั้งแรก แล้วด้วยบรรยากาศที่กองด้วย พี่ๆทุกๆคน ถ้ามันเป็นเรื่องแรกในชีวิตของผม ผมคงกดดันเหมือนกันนะ เอาจริงๆ วันแรกๆ มันก็มีกดดันบ้างแหละครับ ว่าเราไปเล่นกับกองข้างนอกจะเป็นยังไง แต่พอไปเจอทีมงาน เจอทุกคน สรุปว่าน่ารักมากๆ ทำให้เราไม่เครียดเลยครับตั้งแต่นั้นมา ความกดดันหายไปเลย”

หลังจากนี้สามารถเล่นกับทุกค่ายเลยไหม?

“เล่นได้กับทุกค่ายมาสักพักแล้วครับ แต่มันก็อยู่ที่เรื่องของบท คาแรกเตอร์อะไรแบบนี้ นอกจากตัวผมเองที่จะมีสิทธิในการเลือกแล้ว ก็จะเป็นของทางผู้ใหญ่ด้วย”

ด้วยความที่เรื่องนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างแรง ส่วนตัวเรามีฉากหุ่นแซ่บๆ หรือเลิฟซีนบ้างไหม?

“เรื่องนี้ไม่มีนะครับ (หัวเราะ) อย่างที่บอก ตัวผมเองไม่ได้มีเรื่องของความรุนแรงหรือแซ่บๆ ขนาดนั้น เพราะว่าส่วนนี้ขอส่งให้รุ่นใหญ่เขาจัดเต็มกันดีกว่าครับ ส่วนภาพในโปสเตอร์ที่ประกบคู่พี่ยุ้ย จริงๆ ผมเป็นอีกหนึ่งแผนการของพี่ยุ้ยมากกว่า ถ้าจะเข้ามา มันจะไม่ได้เป็นในทางเลิฟซีน แต่จะเป็นในทางที่เขาหลอกใช้เรา แต่รับรองสนุกมากแน่นอน”

บทดราม่าเรื่องนี้ ท้าทายเรามากขึ้นแค่ไหน?

“เรื่องนี้ก็ดราม่าค่อนข้างเยอะนะ แต่ในส่วนของผมจะมาในทางช่วยเหลือ คนที่ดราม่ามากที่สุดสำหรับผมก็คือน้องนนนี่ แล้วเราจะเป็นฝ่ายปลอบ เราจะมีดราม่าท้ายๆ เลย นิดๆ หน่อยๆ เรื่องแม่ เรื่องครอบครัวอะไรแบบนี้ครับ”

ความคาดหวังของละครเรื่องนี้ สำหรับเราเป็นอย่างไร?

“ไม่คาดหวังเลยนะครับ ด้วยความที่เรายิ่งเล่นละครไปเรื่อยๆ มันยิ่งทำให้เราเป็นนักแสดงมากขึ้น จากเด็กวัยรุ่นธรรมดา เราไม่ได้คาดหวังว่า เราจะได้เงินเยอะไหม คนจะดูเยอะไหม สิ่งที่คาดหวังตอนนั้นคือ เราทำมันออกมาให้ดีที่สุดแล้ว ปลายทางมันคือ คนดู ที่จะบอกได้ว่า ดี หรือ ไม่ดี ถ้าไม่ดียังไง เราจะได้ปรับตัวได้ ถ้าดี เราก็จะจำไว้ว่าแบบนี้มันดีนะ อะไรประมาณนี้ครับ ผมจะชอบเอาคอมเมนต์มาปรับปรุงมากกว่า ผมไม่ได้คาดหวังเลยนะว่าเรตติ้งจะเป็นยังไง เพราะว่าสุดท้ายแล้วมันไม่ใช่ผม ต่อให้ผมเปิดทีวีรอดู 100 เครื่อง มันก็ไม่ได้ช่วย มันเป็นเรื่องของคนดูแล้วครับ”

แสดงว่าเรารักในการแสดงมากใช่ไหม?

“รักครับ รักในการทำงาน ในตัวละครทุกตัวที่เล่น เวลาอยู่กองเราสนุก ไม่ต้องเป็นนักแสดงก็ได้ มันก็เหมือนกับเวลาเราทำงาน เราก็แค่อยากจะรู้ว่าเจ้านายชอบไหม ลูกค้าชอบไหม มันประมาณนั้นมากกว่าครับ”

เหตุผลที่ไม่ควรพลาดเรื่องนี้?

“หลักๆ เลยคือ นักแสดงรุ่นใหญ่มาปะทะกันเต็มที่มาก แล้วเรื่องนี้ข้อคิดเยอะมาก จริงๆ เนื้อเรื่องมันอาจจะไม่ได้สอดคล้องกับใครหลายๆ คน แต่ผมเชื่อว่าถ้าในมุมมองนั้น ปัจจุบันมันมีค่อนข้างเยอะ ก็คือการบูลลี่ การไม่ให้เกียรติคน แล้วสุดท้ายเรื่องแบบนั้น วันหนึ่งมันอาจจะตามกลับมาสนองก็ได้ สำหรับตัวโยธิน จะมีซีนที่ผมชอบก็คือ การเข้าซีนกับพี่ต้อม ที่เล่นเป็นแม่ของผมในเรื่องนะครับ ทั้งๆ ที่ในกอง ผมสนิทกับพี่ต้อมน้อยที่สุด แต่พอเล่นด้วยกัน ทำให้ผมประทับใจทุกซีน เรารู้สึกว่ากอดเขา แล้วเหมือนกอดแม่ของผมจริงๆ ผมอินกับตรงนี้มากจริงๆ ครับ”

3 คำ บอกความเป็น ตัวเอง เพราะอะไร?

“ตลก จริงจัง ขี้เล่น ครับ ไม่ว่าเพื่อนจะอกหักมา ผมก็จะให้คำปรึกษาได้ตลอด แล้วไม่เครียดด้วย แน่นอน หรือเวลาตัวผมเองสมัยเรียนไม่ว่าจะอกหัก สอบไม่ได้ ผมจะสามารถปรับอารมณ์ตัวเองได้ดีมาก ค่อนข้างจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดี ก็เลยรู้สึกว่า ตลกกับขี้เล่น มันค่อนข้างเป็นตัวผม ชัดเจนมาก ผมว่าคล้ายโยธินเลยครับ อย่างที่บอกว่าคาแรกเตอร์ผมกับโยธิน คล้ายๆ กัน ในความไร้สาระของผม ผมก็จริงจังนะ (หัวเราะ)”

ความชอบส่วนตัว หรือกิจกรรมโปรดคืออะไร?

“ส่วนใหญ่ก็จะเป็นฟุตบอลครับ ปั่นจักรยาน แล้วก็เล่นเซิร์ฟ หลักๆ ที่เล่นนะครับ  มีขับเจ็ตสกี เวคบอร์ด อะไรพวกนี้ คือผมจะเป็นคนที่ชอบกีฬา แอคทิวิตี้ เพราะรู้สึกว่าเหมือนเรา เราได้ใช้พลังงาน เราได้ลงไปทำอะไรหลายๆ อย่าง ผมรู้สึกว่ามันเป็นการพักผ่อนอีกแบบหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกว่าการทำงานก็ตาม แต่ก็มีความสุขดีครับ”

ไอดอลของการทำงาน ในวงการบันเทิงคือใคร ชอบเพราะอะไร?

“มีเยอะมากครับ เอาจริงๆ คือพี่ๆ ที่เคยร่วมงานกันมา ทุกคน เป็นไอดอลผมหมดเลย ผมเริ่มจากศูนย์ วันแรกที่ผมก้าวเข้ามาในวงการบันเทิง อย่างที่บอกคือเป็นเด็กคนหนึ่งที่ โชคดี อยู่ๆ ก็ได้เงินจากการทำงาน เงินก้อนแรกในวงการบันเทิง 80,000 บาท จากการทำรายการเกม ตอนนั้นมาแค่นี้ ก็ตื่นเต้นมากแล้ว จุดเริ่มต้นมันคือแบบนั้น พอเวลาผ่านไป ได้เจอพี่ๆ ในวงการ เขาเข้ามาสอน เข้ามาแชร์เรื่องชีวิต การใช้เงินต่างๆ กลายเป็นว่าเราก็โตขึ้นเรื่อยๆ ไอดอลเราเลยกลายเป็น พี่ๆ ทุกคนที่เคยร่วมงานกันมานี่แหละครับ พวกเขาคือไอดอลในหลายๆ มุม อย่างเช่น เรื่องของการตรงต่อเวลา เรื่องของการทำงาน ผมจะพยายามดูตัวอย่างของทุกคน มาปรับใช้กับชีวิตตัวเองครับ แต่ก่อนผมเป็นคนขี้อายมากนะ ถ้าไม่สนิทคือแทบจะไม่คุยเลย แต่พอผ่านเวลามา มันทำให้เรารู้ว่า เราควรเริ่มจากตัวเราก่อน แล้วถ้าเขาเข้าใจว่าเราเป็นคนแบบนี้ เขาก็จะเข้ามาสนุกสนานกับเรา แบบนี้ดีกว่าครับ”

เป้าหมายต่อไปในวงการบันเทิงของทอยคืออะไร?

“ด้วยความที่ตอนนี้เราเป็นนักแสดงเต็มตัวแล้ว จริงๆ การพัฒนาตัวเองของผมมันไม่ได้เรียก เป้าหมาย ด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต้องทำอยู่แล้ว ในทุกๆ ปี บทบาทมันก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ พอมองย้อนกลับไป เรามาถึงจุดนี้ ถือว่าผมประสบความสำเร็จแล้วนะ เป้าหมายตอนนี้คือ อยากจะออกกำลังกายให้จริงจังมากกว่านี้ครับ ส่วนเรื่องการแสดง ผมว่าผมยังพอปรับได้ แต่ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย จะได้สอดคล้องกับงานที่ทำในอนาคตด้วยครับ”

ความรักตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“ดีครับ แต่ตอนนี้ต่างคนต่างทำงาน เขาก็งานเยอะเนอะ สายวาไรตี้ สายรายการ ฝั่งเราก็เป็นสายละคร ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ จะพูดคุยกันทางไลน์ อัพเดทกันมากกว่า”

มีคนบอกว่า เราเป็นคนตามใจแฟน จริงไหม?

“ก็ไม่เชิงนะครับ ไม่ได้ตามใจขนาดนั้น คือถ้าเป็นเรื่องของการแต่งตัว เราจะให้เกียรติเขา แล้วเขาก็ไม่ได้ห้ามเราในการที่เราจะรับละครแบบไหน หรือเราจะทำกิจกรรมอะไร ต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน แล้วก็ไว้ใจกันมากกว่าครับ”

อย่างเลิฟซีน ต้องขออนุญาตก่อนไหม?

“ไม่มีนะครับ เป็นการบอกเล่ากันมากกว่า เราเข้าใจกันอยู่แล้ว เขาเป็นคนพลังงานเยอะ เขาสบายๆ ไม่เครียด สนุกสนานครับ”

มีการตามไปกองกันบ้างไหม สองคน?

“ไม่มีเลยครับ การทำงานมันคนละแบบด้วย เขาสายรายการ เราสายกองละคร จะเป็นการโทรฯ หากัน ไลน์คุยกันซะมากกว่าครับ”

ไม่ค่อยได้เจอกันแบบนี้ มีทริคอย่างไรบ้าง ในการเชื่อมความรัก?

“จริงๆแล้วไม่มีนะครับ พอว่างเราก็แค่หากิจกรรมร่วมกัน อย่าง ทานข้าว หรือออกกำลังกา ซะมากกว่า แต่วันที่ไม่ได้เจอกัน เราก็จะคุยกันตลอดครับ”

นิยามความรักของตัวเองว่าอย่างไร?

“ซัพพอร์ตแล้วกันครับ เติมพลังบวกให้กัน บางทีงานมันเหนื่อย ไม่ว่าจากข้างในหรือ ร่างกายก็ตาม ถ้าเรามีการซัพพอร์ตกัน มันก็จะเหมือนได้เติมในสิ่งที่เราขาดหายไปครับ”

เรื่องงานในอีก 10 ปีข้างหน้า จะต่างกันไหม?

“เท่าที่คิดตอนนี้ ก็ยังอยากเป็นนักแสดงอยู่นะครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นแล้ว เราจะได้รับบทแบบไหน แต่อีกอย่างหนึ่งที่อยากเล่นคือ ซิทคอมครับ ผมอยากเล่นมาก ขอทุกผู้กำกับจริงๆ อันนี้ก็เป็นอีกงานที่ ต้องการมาก แต่ตอนนี้ก็มีคนติดต่อมาบ้างแล้วนะครับ แต่ด้วยคิว หรืออะไรหลายๆ อย่าง มันยังไม่ค่อยลงตัว จังหวะไม่ได้”

อยากบอกอะไรกับแฟนคลับที่ชื่นชอบเราบ้าง?

“อย่างที่พูดเสมอครับ ชอบคุณที่ตามกันมาตลอด แฟนคลับบางคนทุ่มเทมากๆ เจอกันตั้งแต่วันแรก แล้วก็ยังตามมาถึงทุกวันนี้ หรือบางคนก็ทุ่มเทเวลา จำรายละเอียด ดูผลงานของเราทุกงาน ก็อยากขอบคุณ เพราะมันไม่มีคำไหนที่จะแทนได้ นอกจาก ขอบคุณมากๆ ครับ”

ฝากผลงานกับแฟนๆ สักหน่อย?

“สุดท้ายนี้ผมขอฝากละคร ร่านดอกงิ้ว ทางช่อง 8 ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ด้วยนะครับ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุด แถมแฟนๆ จะได้เห็นในมุมมองเรื่องของ ครอบครัว ความรัก การให้อภัย ยิ่งได้นักแสดงมากฝีมือชั้นนำมาสร้างสีสันความสนุกด้วยแล้ว ยิ่งห้ามพลาดเลยและผมขอฝากผลงานเพลงของ BOYS DON’T CRY PROJECT ชื่อเพลงว่า ไม่เป็นไร สามารถดูได้ในยูทูป ส่วนปีหน้าจะมีคอนเสิร์ตด้วย ฝากติดตามด้วยนะครับ”

แหม…พูดคุยกับหนุ่มทอยแบบจัดเต็มทุกมุมของชีวิตจริงๆ เอาเป็นว่าใครเป็นแฟนคลับของหนุ่มคนนี้ก็อย่าลืมซัพพอร์ตและติดตามเขาไปเรื่อยๆ นะจ๊ะ เพราะเขาเป็นอีกหนึ่งคนที่รักในการแสดงและอยากทำผลงานดีๆออกมาให้ทุกคนเห็นอย่างมากมายนั่นเอง


คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”

โดย “yimyim”