เมื่อวันที่ 9 มี.ค. แหล่งข่าวจากกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงการตรวจสอบกรณีเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 A หมายเลข 10331 เกิดอุบัติเหตุตกระหว่างการฝึกบิน ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้อำนวยการสำนักนิรภัยการบิน กองทัพอากาศจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ โดยดูจากการบันทึกเทป สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ก็จะทำการสอบสวนนักบินว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงต้องดูจากข้อมูลที่มีอยู่ อาทิ สภาพอากาศ และนักวิชาการด้านการบินมาช่วยวิเคราะห์ถึงสาเหตุ ซึ่งต้องให้เวลา ขณะที่เครื่องบินรุ่นนี้ยังมีประจำการอยู่และยังใช้ปฏิบัติภารกิจได้ทั้งหมด โดยประจำการที่กองบิน 1 และกองบิน 4 แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ก็จะต้องสั่งหยุดทำการบินไปก่อน เพื่อตรวจสอบระบบของเครื่องทุกลำประมาณ 1 สัปดาห์ว่าเกิดจากอะไรก่อนกลับมาบินต่อ หากไม่มีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นอีกกับเครื่องอื่น ซึ่งตามหลักปฏิบัติเป็นปกติทั่วโลกการสูญเสียเครื่องบิน ก็เหมือนกับเราสูญเสียคนครอบครับและไว้อาลัยเขา ต้องดูแลให้เรียบร้อยว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะทำการขึ้นบินอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจะพยายามตรวจสอบให้เร็วที่สุดสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้ใชงานมากกว่า 40 ปี

แหล่งข่าวจากกองทัพอากาศ กล่าวต่อว่า เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ได้บรรจุเข้าประจำการครั้งแรกในกองทัพอากาศ ณ ฝูงบิน 103 กองบิน 1 เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2531 ตามโครงการ Peace Naresuan ซึ่งเป็นโครงการที่กองทัพอากาศจัดหาเครื่องบินรบที่ทันสมัยเข้าประจำการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการป้องปราม และพร้อมตอบโต้การรุกรานของลัทธิคอมมิวนิสต์จากประเทศรอบข้าง ต่อมากองทัพอากาศได้จัดหาเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 เข้าประจำการยังฝูงบิน 403 กองบิน และฝูงบิน 102 กองบิน 1 เพิ่มเติมตามลำดับ แต่ละฝูงบินจะมีชื่อนามเรียกขานต่างกัน อาทิ ฝูงบิน 102 กองบินนามเรียกคือ “STARS” ฝูงบิน 103 กองบิน 1 นามเรียกขาน “LIGHTNING” และฝูงบิน 403 กองบิน 4 นามเรียกขาน”COBRA” และปัจจุบันกองทัพอากาศมีแผนการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เพื่อทดแทน โดยตั้งคณะกรรมการศึกษาการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 และเครื่องบินขับไล่เอฟ-5 ต่อไป.