ทำเอาแฟนๆตกอกตกใจไปตามๆกัน ภายหลังจากที่นักร้องดังระดับโลกอย่าง “จัสติน บีเบอร์” เผยกับแฟนคลับผ่านทางอินสตาแกรมว่า กำลังป่วยเป็นโรค “แรมเซย์ฮันต์ ซินโดรม” ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าของเขาเป็นอัมพาตไปซีกหนึ่ง จนทำให้โลกออนไลน์ต่างพูดถึงโรคดังกล่าว ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร?
-‘จัสติน บีเบอร์’ เผยเหตุยกเลิกทัวร์ ต้องต่อสู้โรคร้าย กล้ามเนื้อใบหน้าเป็นอัมพาต

แรมเซย์ฮันต์ ซินโดรมคืออะไร?
สำหรับ “แรมเซย์ฮันต์ ซินโดรม” (Ramsay Hunt Syndrome) เป็นภาวะแทรกซ้อนของกลุ่มอาการโรคงูสวัด ที่ส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทบนใบหน้าบริเวณหู นอกเหนือจากอาการเจ็บปวดของผื่นงูสวัดแล้วนั้น แรมเซย์ฮันต์ ซินโดรม ยังส่งผลกระทบทำให้เกิดอัมพาตที่ใบหน้า และสูญเสียการได้ยิน

“โรคแรมเซย์ฮันต์ ซินโดรม เกิดจากไวรัสก่อโรคอีสุกอีใส หรือ งูสวัด (Varicella-Zoster virus: VZV) ไวรัสหลบซ่อนหลบซ่อนตามปมประสาท แม้โรคอีสุกอีใสจะหายแล้ว แต่ตัวไวรัสยังคงอยู่ในร่างกาย มักจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ”

อาการ
-ปวดหู
-การได้ยินลดลง
-เวียนหัว บ้านหมุน
-เสียการรับรู้รสชาติอาหาร
-ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งเบี้ยว

อาการแทรกซ้อนที่ตามมา
มีทั้ง “การสูญเสียการได้ยินแบบถาวร” กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแอ โดยคนส่วนใหญ่ที่เกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวจะเป็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่มันสามารถกลายเป็นถาวรได้

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะส่งผลให้ “ดวงตาเสียหาย” เนื่องจากอาการกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง ทำให้การปิดเปลือกตาค่อนข้างยาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกระจกตาที่ป้องกันดวงตา อาจะเกิดความเสียหาย และความเสียหายจากตรงนี้ทำให้เกิดอาการปวดตา ตาพร่ามัว

รวมไปถึง “โรคประสาท Postherpetic” ที่เกิดขึ้นจาก โรคงูสวัดทำลายเส้นใยประสาท ทำให้เกิดอาการสับสน พูดเกินจริง ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดเป็นเวลานานหลังจากอาการของโรคแรมเซย์ฮันต์ ซินโดรมหายไปแล้วก็ตาม

ใครป่วยได้บ้าง?
กลุ่มอาการของ โรคแรมเซย์ฮันต์ ซินโดรม สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เคยเป็นอีสุกอีใส แต่จะพบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป พบไม่บ่อยนักในเด็ก

การป้องกัน
สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้สุกใส ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ ซึ่งฉีดเพียง 1 เข็ม สามารถป้องกันได้ตลอดชีวิต ถ้าฉีดตอนอายุมากกว่า 13 ปี ควรฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 4-8 สัปดาห์..

ขอบคุณภาพจาก Mayo Clinic