เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ (26 มิ.ย.) ร.ต.อ.มงคล ราลินทา รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส บริเวณบ้านพักผู้คุมเรือนจำ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ทราบชื่อภายหลังคือ นายโด้ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ชำนาญงาน ไปตรวจสอบพบเพียงกองเลือดในป้อมที่พักสำหรับเข้าเวรของผู้คุมข้างเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี บนพื้นพบปืนสั้น 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก ปลอกกระสุนกระเด็นออกมานอกห้อง กระสุนทะลุกระจกบานเกร็ดแตก 3 บาน ไปถูกรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนอกเสียหาย หัวกระสุนตกอยู่ในรถ และยังพบจดหมายลาเขียนข้อความ “กราบขอโทษทุกๆคนด้วย เครียดครับ ระบบที่ทำงานก็เหนื่อยล้ามาก ของทุกอย่างอยู่ในรถนะ” และมีเบอร์โทรศัพท์คาดว่าน่าจะเป็นเบอร์ญาติ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนเบื้องต้นเพื่อนร่วมงานเล่าว่า ผู้บาดเจ็บทำงานมากกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด เพื่อนๆพยายามสอบถามแต่ก็ไม่เล่าอะไรให้ฟัง ก่อนเกิดเหตุได้มาเข้าเวรตามปกติและต้องเลิกงานประมาณ 16:00 น. แต่เย็นแล้วยังไม่กลับบ้าน ภรรยาและลูกเห็นว่าผิดเวลากว่าทุกวันจึงโทรศัพท์ตามก่อนพากันเดินออกมาที่ป้อง แต่พอมาถึงเห็นผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้องเมื่อปิดประตูเข้าไป ผู้ก่อเหตุกล่าวว่า “ป๊าไปก่อนนะอ้วน” ก่อนใช้ปืนยิงศีรษะบาดเจ็บดังกล่าว ภรรยาตกใจร้องให้คนช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดทางกรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาชี้แจงว่า ผู้ตายเป็นข้าราชการกรมราชทัณฑ์ในตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงาน สังกัดเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี จากการสอบถามข้อมูลจากเพื่อนร่วมงาน เบื้องต้นทราบว่าปมเหตุอาจเกิดจากปัญหาส่วนตัวและปัญหาครอบครัว เพราะผู้ก่อเหตุมีภาระหนี้สิน และมีภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้ ส่วนปัญหาด้านการทำงาน ที่ผ่านมาไม่พบว่ามีปัญหาหรือมีความขัดแย้งกับผู้ใด รวมถึงไม่พบปัญหาจากระบบงานหรือการเข้าเวรที่มากกว่าปกติตามที่เป็นข่าว ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดปราจีนบุรีใช้ระบบการเข้าเวรกลางคืน 1 คืน พัก 3 คืน ซึ่งกลางวันทำงานปกติ และมีการดูแลคุณภาพชีวิตเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ตามนโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ภายใต้แนวคิด Next Normal จึงคาดว่าประเด็นปัญหาจากการทำงานไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ก่อเหตุดังกล่าว

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้ก่อเหตุและต่อสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามกรมราชทัณฑ์ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เอกสาร พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พร้อมดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ให้สามารถสร้างสมดุลในการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม ไม่ให้เกิดผลเสียต่อประสิทธิภาพในการทำงาน หรือสุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมถึงการดำเนินชีวิต และครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานได้ในอนาคต