สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ว่า ผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาของญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย ( แอลดีพี ) ของนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ และพรรคโคเมอิโตะซึ่งเป็นพันธมิตร ได้รับเลือกตั้งรวมกัน “มากกว่า 75 ที่นั่ง” จากทั้งหมด 125 ที่นั่งซึ่งมีการชิงชัย ในทั้งหมด 248 ที่นั่ง


คิชิดะกล่าวถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการ ให้กระบวนการทั้งหมดขับเคลื่อนและสำเร็จลุล่วงตามแผนการ เนื่องจากเป็นการที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิ ในขณะที่ความรุนแรงกำลังสั่นคลอนระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเลือกตั้ง แม้ไม่ได้เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา แต่แน่นอนว่า ผู้นำญี่ปุ่นหมายถึงเหตุการณ์ลอบยิงสังหาร อดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่เมืองนารา เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ สมาชิกพรรคแอลดีพีร่วมกันยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้แก่อาเบะ ณ ที่ทำการพรรคในกรุงโตเกียวด้วย ด้านผู้สันทัดกรณีมองว่า ชัยชนะครั้งนี้จะยิ่งเป็นการเพิ่ม “ความชอบธรรม” ให้กับคิชิดะ ในการสานต่ออุดมการณ์ของอาเบะ ซึ่งมุ่งมั่นแก้ไขมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การเพิ่มอำนาจให้แก่กองกำลังป้องกันตนเอง ( เอสดีเอฟ ) และการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อยกระดับกลไกด้านกลาโหมของประเทศ

นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ นำสมาชิกพรรคแอลดีพี ยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้แก่อดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ


แม้ผลการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกครั้งนี้เป็นไปตามความคาดหมายของแทบทุกฝ่าย ซึ่งคาดการณ์ด้วยว่า เหตุการณ์ลอบสังหารอาเบะอาจ “ช่วยเรียกคะแนนเห็นใจ” จากประชาชน โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ผู้สมัครของพรรคแอลดีพีมีคะแนนนิยมสูสีกับผู้สมัครของฝ่ายค้าน


อนึ่ง เหตุการณ์ลอบสังหารอาเบะ เกิดขึ้นระหว่างอดีตผู้นำญี่ปุ่นปราศรัยช่วยหาเสียง ให้กับผู้สมัครของพรรคแอลดีพี คือ นายเคอิ ซาโตะ ซึ่งได้รับชัยชนะตามความคาดหมาย เนื่องจากเป็นเจ้าของที่นั่งตั้งแต่ปี 2559 ซึ่ง ซาโตะ กล่าวอุทิศชัยชนะให้แก่อาเบะ และให้คำมั่นตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่หวั่นเกรงต่อภัยคุกคาม

เจ้าหน้าที่ช่วยกันนับคะแนนบัตรเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ที่สำนักงานใหญ่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ในกรุงโตเกียว


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่งระบุไปในทางเดียวกันว่า จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิอยู่ที่ประมาณ 51.58% เท่านั้น เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิอยู่ที่ 48.8%.

เครดิตภาพ : REUTERS