จากกรณี กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นสมาชิกสหกรณ์จังหวัดพัทลุง รวมตัวกันยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ช่วยติดตามคดีการทุจริตภายในสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวที่เป็นสมาชิกได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก มีมูลค่าความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท ภายหลังมีการสืบสวนข้อเท็จจริงทางคดีพบความผิดปกติหลายอย่าง มีพฤติการณ์ในการร่วมกันวางแผน แบ่งหน้าที่กันทำ และลงมือกระทำความผิดหลายกรรม หลายวาระต่างกัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 จนถึงปี พ.ศ.2563 โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดมากกว่า 10 วิธี เช่น การตกแต่งบัญชีของสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก การตกแต่งบัญชีลูกหนี้และลูกหนี้ที่ไม่มีตัวตน หรือตกแต่งบัญชีเกินความเป็นจริง การปลอมใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1,577,836,978.14 บาท ต่อมา ในห้วงระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 25 คน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ ในพื้นที่ 9 จังหวัด 74 จุดเพื่อจะนำมาช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายแล้ว โดยค้นในพื้นที่จังหวัดพัทลุง 38 จุด ภูเภ็ต 16 จุด ตรัง 6 จุด กทม. 5 จุด กระบี่ 4 จุด นครศรีธรรม 1 จุด จันทบุรี 1 จุด และจังหวัดระยองอีก 1 จุด โดยสามารถ 1. อายัดบัญชีผู้ต้องหา รวมจำนวน 37 บัญชี เงินคงเหลือในบัญชี 4,369,867.76 บาท 2. ตรวจยึดบ้านพร้อมที่ดิน 28 หลัง 3. ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 28 หลัง 4. ห้องชุด 6 ห้อง 5. ที่ดินเปล่า (โฉนด) 13 แปลง 6. ที่ดินเปล่า (นส.3 ก.) 11 แปลง 7. รีสอร์ต 1 แห่ง (หัวหิน) 8. ตลาดสดนาโยง จ.ตรัง (6 ไร่) 9. อายัดทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ (ผู้ต้องหา 6 ราย) 10. รถยนต์ 19 คัน รถจักรยานยนต์ 12 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ จำนวนหลายรายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดอายัด ทั้งหมด 694,441,500 บาท และในจำนวนดังกล่าว ยังพบว่าเครือข่ายผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ ยังได้ซื้อหุ้นของการบินไทยไว้ด้วย

“…ขณะนี้พบบ้านเครือข่ายผู้ต้องหาคดีร่วมกันทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์หลังหนึ่ง พื้นที่อำเภอควนขนุน ซุกซ่อนตู้เชฟไว้ในฝาผนัง หากผู้เชี่ยวชาญเปิดตู้เชฟได้แล้ว คาดว่าน่าได้ทรัพย์สินอีกหลายรายการ มูลค่าหลายร้อยล้านบาท เพื่อนำไปใช้เยียวยาผู้เสียหาย ทางตำรวจจะสืบทรัพย์สินอย่างเนื่องให้ได้มากที่สุด ผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรมจนถึงที่สุด และคาดว่าไม่เกินวันที่ 10 กันยายนนี้ สามารถปิดสำนวนคดีทุจริตเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง เพื่อส่งอัยการดำเนินต่อไป”.