เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 13 ก.ย. เฟซบุ๊ก CARE • แคร์ คิด เคลื่อน ไทย ได้ไลฟ์สด การพูดคุยกับ โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร ในหัวข้อ นโยบายเกษตร-Soft Power ของเพื่อไทย ทำอย่างไรให้ปังเหมือนไทยรักไทย โดยช่วงหนึ่ง นายทักษิณ กล่าวว่า น้องอิ๊งเขาจริงจังมากกับนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power เขาเล่าให้ผมฟัง สนุกมาก หลายคนสับสนว่าคืออะไร อิ๊งก็บอกว่า ตอนประกาศนโยบายเวลามันน้อย เลยอธิบายได้น้อย

เราไม่สามารถสร้างรายได้ให้คนไทยพอกินพอใช้ การไม่พอกินใช้ คือ เพิ่มหนี้ หมายความว่า เราต้องเร่งพัฒนาประเทศ เพราะค่าใช้จ่ายแซงหมด ขึ้นทุกอย่างยกเว้นค่าแรง ผมเศร้าเลย วันนี้ค่าแรงไทย ถ้าให้คนไทยอยู่ได้แบบไม่ต้องไปอดมื้อกินมื้อ ดูอยู่วันละ 800 บาท ถามว่าทำได้ไหม แต่รัฐบาลต้องสร้างเศรษฐกิจและรายได้ รัฐบาลไม่ต้องควักภาษี แต่เอกชนจะทำยังไง คนไทยจะต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น นั่นก็คือสิ่งที่ทีมอิ๊งพูด

วิธีคือ ไปหาคนในแต่ละครอบครัวให้มีอย่างน้อย 1 ศักยภาพ ไม่ว่ากีฬา ดนตรี ศิลปะ ออกแบบ ทำอาหาร หรือสนใจด้านเกม คอมพิวเตอร์ พัฒนาซอฟต์แวร์ ถ้าเจอแล้วทำยังไง ก็ให้ครอบครัวตกลงกันว่าส่งเข้าประกวดสาขาอะไร ไม่เกี่ยงอายุ สมมุติ พ่อเป็นช่างไม้ เก่งมาก ทำไม้เนียนมาก เรื่องไอเดียดีไซน์ ก็ใส่ชื่อไป นาย ก. อายุ 60 ปี ชำนาญงานไม้

แล้วผมถามอิ๊งว่า จะคัดยังไง ก็บอกให้เขาวัดฝีมือตัวเอง สมมุติเต็ม 10 ให้เท่าไหร่ สมมุติให้ตัวเอง 7 ก็คัดแยกกลุ่ม ผมถามอิ๊งต่อว่า แล้วคนตั้ง 21 ล้านคนจะคัดยังไง อิ๊งบอกว่าก็ออนไลน์ไงพ่อ ก็สมัยนั้นพ่อทำอินเทอร์เน็ตตำบล ให้ลงทะเบียนเลย 20 ล้านคน ทั้งประเทศลงทะเบียนแล้วคัดทีละขั้น แล้วทำไมคัดทีละขั้น ก็หลังจากทีละขั้นในออนไลน์ แล้วแยกกลุ่ม แล้วมีการฝึกออนไลน์ แล้วค่อยคัด เขาเทรนในศูนย์ฝึก เขาบอกว่า ทำได้เลย ไม่ยาก แล้วก็เริ่มคัด

ทีนี้ผมถามว่า ลูกอยากให้พรรคเขียนโปรแกรมรับสมัครเลย พอเป็นรัฐบาลก็ยกทำต่อเลย ประชาชนจะได้มีรายได้เร็ว สมมุติว่าช่างไม้ทำงานในโรงงาน วันละ 300 แต่ว่าฝีมือ ควรทำงานได้วันละ 1,000-1,200 เทรนดีอาจถึง 3,000 ต่างกับ 300 เลย ถ้าทำทุกสาขา สมมุติเทรน 20 ล้าน ก็ไปได้ 10 ล้าน สามารถทำงาน สมมุติแทนที่ทำกับข้าวให้เฉพาะคนในครอบครัว ก็อาจจะเป็นเชฟในเมือง มีรายได้ดีกว่า เลี้ยงครอบครัวได้ แล้วหลายสาขา

สาเหตุว่าทำไมเรียกว่า 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์ คือมันง่ายดี แต่จริงๆ แล้วมันก็คือ 1 ครอบครัว 1 ศักยภาพ