เรียกได้กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก สำหรับเรื่องราวที่ จ.สุรินทร์ ทำกิจกรรม “การพับตุ๊กตาช้างที่มากที่สุดในโลก” ด้วยผ้าพื้นเมืองสุรินทร์ ที่สนามแสดงช้าง เพื่อบันทึกสถิติ กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด (Guinness World Records) ในขณะที่ผู้ใหญ่นั่งชมอยู่ในร่มบนอัฒจันทร์ แต่เด็กนักเรียนจำนวนมากนั่งพับตุ๊กตาช้างกลางแดดร้อนจัด จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ซัดเละ!​ “สุรินทร์” ให้นักเรียนตากแดดพับตุ๊กตาช้างมากที่สุดในโลก จวกทรมานเด็ก

คืบหน้าเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเด็กนักเรียนที่นั่งตากแดดพับช้าง โดยนายเอ (นามสมมุติ) เล่าว่า ตนและเพื่อนๆ ได้เดินทางออกจากโรงเรียนตั้งแต่เวลาเที่ยงครึ่ง จากนั้นก็นั่งรอที่สนามแสดงช้าง อีกประมาณ 1 ชั่วโมง ราวๆ ประมาณบ่าย 2 โมง ก็นั่งฟังพิธีกรบรรยาย กว่าจะได้พับผ้าตุ๊กตาช้างก็ประมาณบ่าย 3 โมง โดยนั่งตากแดดอยู่แบบนั้น และเมื่อพร้อมเพรียงกัน ทางพิธีกรก็ให้ถอดหมวก ถอดเสื้อคลุม หุบร่มเก็บ เพราะต้องการภาพสวยเป็นสีเดียวกัน ให้เวลาพับ 30 นาที ก่อนในพื้นที่ก็จะเริ่มมีคนเป็นลมล้มพับกันไปหลายราย รวมทั้งครูด้วย กิจกรรมดังกล่าวนักเรียนโดนบังคับ ถ้าไม่ไปร่วมกิจกรรมต้องมีเหตุผลที่สมควร ส่วนผ้าที่นำไปพับ นักเรียนจะต้องนำไปเอง จำนวน 2 ผืน หรือถ้าใครไม่มีก็จะต้องซื้อในราคาผืนละ 45 บาท กว่าจะเสร็จกิจกรรมก็เวลาประมาณ 16.30 น. รวมเวลาแล้วก็ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ถึงเสร็จกิจกรรม และแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยมีผ้าตุ๊กตาช้างกลับบ้านมาด้วยคนละ 1 ตัว ในกิจกรรมนั้นยังมีน้องๆ เด็กนักเรียนชั้นอนุบาล อายุราว 5 ขวบ มาร่วมกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนสภาพร่างกาย ตอนกลับมาถึงบ้าน ก็มีอาการเหนื่อย ปวดหัวมาก แต่วันนี้รู้สึกค่อยยังชั่วแล้ว

ด้านผู้ปกครองเด็กนักเรียน กล่าวว่า ตนรู้สึกสงสารลูกและเด็กๆ ไม่คิดว่าจะจัดกิจกรรมแบบนี้ นึกว่ามีการพับร่วมกันในที่ร่มและนำมารวมกันไว้เพื่อทำสถิติโลก ถ้าทราบว่าต้องนั่งตากแดดนานขนาดนี้ ตนก็คงไม่ให้ลูกไปร่วมกิจกรรมแน่นอน

แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเป็ด เล่าว่า งานพับตุ๊กตาช้างบันทึกสถิติโลกนั้น เห็นว่าดีนะ แต่ทำไมต้องให้เด็กนักเรียนไปนั่งตากแดด โซเชียลก็กระหน่ำมีทั้งว่าต่างๆนานา แต่ก็ไม่เป็นไรในเมื่อมันผิดพลาดไปแล้วก็ค่อยๆ แก้ปัญหากันไป.