เมื่อวันที่ 27 พ.ย. พ.ต.ท.ณัฐวรรธน์ เพลินจิตร สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุพบเด็กทารกแรกเกิดถูกทิ้งถังขยะ เหตุเกิดที่หมู่บ้านสิริอุไร ภายในซอย โพธิสาร 1/1 ข้างบ้านเลขที่ 267/2 หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านแตกตื่นออกมามุงดูและส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หลังเจอทารกแรกเกิดเพศชาย ถูกพ่อแม่ใจร้ายห่อพันร่างกายด้วยกระดาษทิซชู ใส่ถุงพลาสติกแล้วทิ้งไว้ในกองขยะส่งเสียงร้องจ้าเป็นที่น่าเวทนาสงสาร ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะช่วยเหลือนำส่ง รพ.บางละมุง ตรวจสอบยังพบถุงพลาสติก กระดาษทิซชูมีคราบเลือดและน้ำคร่ำติดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนนำสุนัขมาเดินเล่นในช่วงเช้ามืดได้ยินเสียงร้องคล้ายเด็กทารก ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงแมว แต่ด้วยความสงสัยจึงเรียกเพื่อนบ้านมาดูพร้อมบันทึกวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ก็พบว่ามีเด็กทารกเพศชาย ผิวพรรณดี ขาวผ่องเป็นที่น่ารักน่าชัง ขยับแขน ขยับขา อยู่ในถุงพลาสติกถูกทิ้งอยู่ จึงรีบแหวกกองขยะช่วยเหลือ แล้วหาผ้าสะอาดมาห่อตัวเพิ่มความอบอุ่น ส่วนคนที่นำมาทิ้งนั้นไม่มีใครเห็น หลังตั้งสติได้จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ขณะที่ นายธนพงษ์ อกอุ่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือมีผู้หญิงสาวผิวขาวหน้าตาดี อายุประมาณ 17 ปี มีอาการตกเลือด ใกล้เคียงกับจุดที่พบเด็กทารก เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักพบคราบเลือดหยดเป็นทาง และยังพบเยื้อหุ้มรกเด็กตกอยู่ในห้อง แต่หญิงสาวกลับแจ้งว่าเป็นประจำเดือนด้วยความที่มีเลือดไหลเยอะผิดสังเกต จึงรีบเคลื่อนย้ายส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ไม่นานก็ได้รับแจ้งว่าพบเด็กทารกถูกทิ้งข้างถังขยะดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบเก็บหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่พักของผู้หญิงสาวที่แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ พบว่าสามารถบันทึกภาพผู้หญิงคนดังกล่าว สวมเสื้อสีขาว นุ่งผ้าเช็ดตัว เดินถือถึงพลาสติกลงบันไดห้องพักออกมาทางด้านหน้าอย่างไม่ลังเล ไม่นานก็เดินกลับเข้ามา โดยมีเลือดไหลนองลงพื้นตลอดทาง ขึ้นบันไดกลับไปยังห้องพักจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ส่วนเด็กทารกเพศชายที่พบนั้น มีน้ำหนักถึง 3.7 กก. อยู่ในอาการปลอดภัย มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด.
