เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่โรงแรม แกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น โฮเทล นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดการประชุมวิชาการสมาคมนักบริหารสาธารณสุข ปี 2566 “Health Tech for Smart Living นวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพเพื่อชีวิตดีดี” ว่า ปีนี้เป็นปีที่สำคัญอย่างยิ่งยวด ก่อนเข้าเรื่องหลักเรื่องสุขภาพ ตนอยากพูดถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่ามีปัญหาอะไร ในฐานะเป็นผู้บริหารบ้านเมือง เป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี การจัดลำดับความสำคัญของผู้บริหาร ต้องเอาเรื่องสำคัญก่อนจะใส่เรื่องสีสัน ซึ่งความสำคัญของประเทศตอนนี้ คนกำลังเรียกหาความซื่อสัตย์ สุจริต และหลักการ ธรรมาภิบาล เพราะขณะนี้ประเทศขาดความเชื่อมั่นในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้าไม่ช่วยกันสร้างสิ่งนี้ จะบั่นทอนประเทศลงเรื่อยๆ ใครจะมาลงทุนด้วย เพราะถ้ากระบวนการยุติธรรมไม่ได้รับความเชื่อมั่นแล้ว เขาจะไปพึ่งใคร และยังบั่นทอนคนในประเทศเอง สุดท้ายจะไม่มีความหวังว่า ทำดีแล้วได้อะไรตอบแทน ทุกคนจะอยู่ในเซฟโซน แล้วทุกคนจะเป็นแบบ มือใครยาวสาวได้สาวเอา อยู่กับตัวเอง อยู่กับพรรคพวกตัวเอง

เหมือนคดีที่เกิดขึ้นกับกรมๆ หนึ่งของกระทรวงหนึ่ง ที่มีการเรียกรับเงินแลกเปลี่ยนกับการเข้าสู่ตำแหน่ง ตนเชื่อมั่นว่า กระทรวงสาธารณสุขเรื่องแบบนี้มีน้อยมาก แต่มันต้องทำให้น้อยสุด และถ้ามีโอกาสมา ตนอยากจะทำให้กระทรวงนี้เป็นต้นแบบของความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริตในการเข้าสู่ตำแหน่ง อย่างน้อยสุดต้องเกิดแคร์เรียพาร์ค ต้องให้น้ำหนักกับคนทำงาน ต้องเกิดให้ได้ เพราะวันนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องนี้มาก คนที่จะแก้ได้คือผู้มีอำนาจ คือพวกตนที่ต้องแก้ ตนได้เรียนกับนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่า ท่านไม่เอาจริงเรื่องนี้ และสื่อสารเรื่องนี้

นายสาธิต ยังกล่าวอีกว่า อย่างการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น ซึ่งจะสร้างความเจริญได้ครอบคลุม แต่คนไม่เชื่อมั่น และมองภาพว่ามีการทุจริต คอร์รัปชั่น ไม่โปร่งใส จริงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งระบบในบ้านเมือง เพราะทุกคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งโดยไม่มีต้นทุน ทั้งนี้ เคยมีการทำสำรวจโดยสถาบันพระปกเกล้า โดยนำตัวเลขการคอร์รัปชั่นในภาพใหญ่ของโครงการแต่ละกระทรวง ทบวง กรม พบว่าแม้มีการทุจริตในท้องถิ่น แต่ยังน้อยเมื่อเทียบอัตราส่วนกับภาพใหญ่ ดังนั้นต้องคงกันที่หลักการ การกระจายอำนาจทำได้ แต่ต้องแก้เรื่องการทุจริต โดยกระดุมเม็ดแรกทุกคนต้องร่วมกันแก้ เลือกตั้งคนที่ปราศจากผลประโยชน์ ดูว่าใครมีนโยบายดี ใครมีความเชื่อมั่น แต่ไม่ใช่เลือกเพราะเขาเอาเงินมาให้ 500-1,000 บาท ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่มีทาง มันจบตั้งแต่วันแรก เป็นเรื่องธรรมดาที่คนจ่ายเงินจะไปเอาเงินคืน นี่คือหลักการง่ายๆ ที่ชาวบ้านก็คิดได้.