เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ร.ต.อ กฤจติภูมิ ทาบุญ ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุบริเวณครอบครัวหมู่ที่ 11 ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นคอกวัวไม่มีเลขที่อยู่ในพื้นที่หมู่ 11 ต.ห้วยหม้าย อ.สอง จ.แพร่พบชายนอนเสียชีวิตอยู่กลางลานหน้าคอกวัว สภาพนอนหงายบริเวณศีรษะกะโหลกยุบสวมเสื้อแขนยาวสีดำกางเกงขาสั้นสีเขียวสวมถุงเท้าสีขาว และสวมรองเท้าข้างขวาข้างเดียว ใกล้กับจุดเกิดเหตุพบไม้ด้ามเสียมยาว 110 เซนติเมตรมีคราบเลือดติดอยู่ตกอยู่ข้างร่างของผู้เสียชีวิต

ต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสิงห์คาร เนตรแก้ว อายุ 54 ปี ห่างจากร่างของผู้เสียชีวิตประมาณ 20 เมตรพบผ้าขาวม้าเปื้อนเลือดตกอยู่และรองเท้าของผู้เสียชีวิตอีก 1 ข้างและมีมีดขนาดความยาว 30 ซม.ตกอยู่พร้อมทั้งรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda wave สีดำแดง ทะเบียน 1กฆ 2717 แพร่ ล้มอยู่ ต่อมาทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายลิขิต เนตรแก้ว อายุ 58 ปี เป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิตรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บ้าน

จากการสอบถามนางสุภาภรณ์ เนตรแก้ว อายุ 47 ปี  ให้การว่า ผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาเป็นพี่ชายของตนทั้งคู่ โดยครอบครัวมีพี่น้องด้วยกัน 8 คน ตนนั้นเป็นลูกคนที่ 6 ผู้ก่อเหตุเป็นพี่คนที่ 3 ส่วนผู้ตายเป็นพี่คนที่ 5 ทั้งคู่มักมีปากเสียงกันเป็นประจำแต่ไม่รุนแรง ล่าสุดช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตนั้นได้เข้าไปเอาน้ำที่บ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นนั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกับเพื่อนที่บ้านแล้วจากนั้นเริ่มมีปากเสียง ผู้ก่อเหตุบอกกับเพื่อนว่าไม่ชอบขี้ยา ผู้เสียชีวิตก็ได้ยินแล้วตอกกลับ ขี้ยาแล้วยังไงไม่ได้ขอเงินมึงมา ตนก็ได้ช่วยกันห้าม จากนั้นผู้ตายขี่รถมอเตอร์ไซต์ออกจากบ้าน มาที่คอกวัวซึ่งปกติ ผู้ตายจะนอนอยู่ที่นี่ ผู้ก่อเหตุก็ขับรถมอเตอร์ไซค์ตามมาและคงมาทะเลาะกันอย่างรุนแรงและคงทำร้ายกัน จนมีผู้เสียชีวิต ผู้ก่อเหตุ ได้ไปบอกตนที่บ้านว่าได้ฆ่านายสิงห์คาร เสียชีวิตแล้วที่คอกวัวตนจึงออกมาดูและตามหา พบว่านอนเสียชีวิตอยู่หน้าคอกวัว แล้วจึงได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าตรวจสอบ

เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบตัวผู้ต้องหาและทำการสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุเกิดเหตุอีกครั้ง โดยตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตไว้ก่อน