สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า ประชาชนหลายหมื่นคนในอิหร่าน ร่วมกันเดินขบวนไปตามท้องถนน ในกรุงเตหะราน เพื่อร่วมเฉลิมฉลองและรำลึกการครบรอบ 44 ปี แห่งการปฏิวัติอิสลาม ที่เป็นการสิ้นสุดระบบการปกครองระบอบกษัตริย์ ซึ่งราชวงศ์สุดท้าย คือ ราชวงศ์ปาห์ลาวี เมื่อปี 2522
ขณะที่ ประธานาธิบดีอีบราฮิม ไรซี ผู้นำอิหร่าน แถลงสุนทรพจน์จากจัตุรัสอาซาดี ในกรุงเตหะราน มีเนื้อหาส่วนใหญ่ประณามสหรัฐ “คือภัยคุกคามของภูมิภาค” ทว่าการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ถูกรบกวนนานประมาณ 1 นาที จากแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า “ความยุติธรรมเพื่ออาลี”
ทั้งนี้ การปฏิวัติอิหร่านเริ่มมีการเคลื่อนไหวเมื่อปี 2521 และสถานการณ์ทวีความตึงเครียดถึงขีดสุด เมื่อเดือนก.พ. 2522 นำไปสู่การโค่นอำนาจของกษัตริย์เราซา ปาห์ลาวี ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากสหรัฐ โดยพระองค์และสมาชิกทั้งหมดที่เหลือในราชวงศ์ เสด็จฯไปลี้ภัยในต่างประเทศ หลีกทางให้อยาตอลเลาะห์ รูฮัลเลาะห์ โคไมนี เดินทางกลับจากการลี้ภัยในฝรั่งเศส นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง และสภาพสังคมในอิหร่านจนถึงปัจจุบัน
อนึ่ง การชุมนุมเนื่องในโอกาสครบรอบ 44 ปีแห่งการปฏิวัติในปีนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ประท้วงยืดเยื้อตั้งแต่เดือนก.ย. ปีที่แล้ว แต่ลดความรุนแรงลงไปมาก จากการที่น.ส.มาห์ซา อมินี เสียชีวิตระหว่างอยู่ภายในการควบคุมตัวของตำรวจศีลธรรม “โทษฐานแต่งกายไม่เรียบร้อย” โดยจนถึงตอนนี้มีรายงานผู้ประท้วงเสียชีวิตแล้วมากกว่า 500 ราย
อย่างไรก็ดี อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดคนปัจจุบันของอิหร่าน มีคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อภัยโทษให้แก่ “นักโทษหลายหมื่นคน” ซึ่งรวมถึงประชาชนบางส่วน ที่ถูกจับกุมระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาล จากกรณีของอมินี แต่คำสั่งของอยาตอลเลาะห์ไม่รวมถึง บุคคลถือสองสัญชาติ และผู้ประท้วงซึ่ง “กระทำผิดอาญาร้ายแรง” และเข้ารับโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอไปแล้ว 4 คน ซึ่งสื่อท้องถิ่นวิเคราะห์ด้วยว่า มาตรการลงโทษ “ขั้นเด็ดขาด” ดังกล่าว ทำให้การประท้วงเบาบางลงไปโดยปริยาย.
เครดิตภาพ : AFP