จากกรณี เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พี่ชายร้องเพจ “สายไหมต้องรอด” หลังเกิดเหตุน้องสาววัย 31 ปี เสียชีวิตปริศนา กลายเป็นศพผูกคอตัวเองดับภายในร้านทำเล็บย่านป่าตอง-ภูเก็ต โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายโทรศัพท์มาร้องขอความช่วยเหลือ อ้างถูกแฟนหนุ่มชาวแคนาดา บังคับให้เสพยา ถ่ายคลิป-ข่มขู่ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่ สโมสรตำรวจ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พานายเกรียงศักดิ์ ริ้วกลาง พี่ชายของ น.ส.วันวิสา ริ้วกลาง อายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตภายในห้องพักของร้านทำเล็บแห่งหนึ่งในย่านป่าตอง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมหลักฐานเข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

นายเกรียงศักดิ์ ยังคงยืนยันว่า ส่วนตัวทางครอบครัวไม่เชื่อว่าน้องสาวจะเป็นผู้ก่อเหตุผูกคอตายด้วยตนเอง เพราะตามที่ได้เคยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนไปว่า น้องสาวมีการส่งแชตมาแจ้งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่สบายใจกับตนเองหลายครั้ง รวมถึงยังเคยส่งแชตที่มีการแคปมาจากการพูดคุยกับแฟนหนุ่ม ว่าถูกแฟนข่มขู่ว่าจะทำให้ไม่สามารถอยู่ที่ภูเก็ตได้ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่น้องสาวรับรู้เรื่องบางอย่างที่ไม่สมควรรู้เกี่ยวกับธุรกิจสีเทาของตัวแฟนหนุ่ม ก่อนจะมาพบว่าเป็นศพเสียชีวิตอยู่บริเวณชั้นสองของร้านเสริมสวยของตนเอง ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ทุกคนล้วนเป็นคนของแฟนฝรั่ง ประกอบกับการให้การกับทางตำรวจที่มีบุคคลอ้างว่า พบตัวน้องสาวในช่วง 2 ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะมาพบศพ ซึ่งทราบจากทางแพทย์ชันสูตรศพน้องสาว ในเบื้องต้นว่า คำให้การของพยานที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ ไม่สอดคล้องกับผลการตรวจชันสูตร เบื้องต้นที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมง

ขณะที่นายเอกภพ ระบุว่า ในเบื้องต้นวันนี้ได้พาผู้เสียหายพร้อมหลักฐานเพื่อมายื่นให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อให้ช่วยเร่งรัดการตรวจสอบพิสูจน์ความชัดเจนในคดีนี้ เนื่องจากเกรงว่า หากเป็นการฆาตกรรมจริงขนาดนี้ ผู้ก่อเหตุยังไม่มีการถูกแจ้งข้อหารวมถึงยังเป็นชาวต่างชาติซึ่งอาจหลบหนีออกนอกประเทศได้ อีกทั้งวีซ่าของแฟนฝรั่งรายนี้ จะครบกำหนดในวันที่ 15 ก.พ. ที่จะถึงนี้ จึงเกรงว่าอาจจะเป็นช่องให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีออกนอกประเทศได้ และการดำเนินคดีอาจจะเกิดความล่าช้าวุ่นวาย

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า หลังรับเรื่องร้องทุกข์ จะดำเนินการกำชับให้ตำรวจเจ้าของสำนวนพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้กระจ่าง เพื่อให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้คลายความกังวล เนื่องจากเป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนเรื่องของการผูกคอตายต้องตรวจสอบว่า ผู้ตายมีความเครียดสะสมมาก่อนหรือไม่ เพราะธรรมชาติของการเสียชีวิต โดยการฆ่าตัวตายผู้ก่อเหตุหรือผู้เสียชีวิตมักจะต้องมีความเครียดสะสม ขณะที่ในส่วนของตัวแฟนฝรั่งได้มีการทำหนังสือแจ้งเตือนเฝ้าระวังไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจในพื้นที่ต่างๆ โดยให้ต้องระวังการเข้าออกนอกประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถทำเป็นหนังสือแบล็กลิสต์ได้ เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตามกฎหมายถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ทางตำรวจขอให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตสบายใจว่า ตำรวจจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็วตรงไปตรงมา.