สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงเม็กซิโก ซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ว่า ธารน้ำแข็งทเวตส์ ซึ่งมีขนาดพอๆ กับรัฐฟลอริดา ของสหรัฐ แสดงถึงความเป็นไปได้ที่ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะเพิ่มสูงมากกว่าครึ่งเมตร และอาจส่งผลกระทบต่อธารน้ำแข็งใกล้ๆ และทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีก 3 เมตรได้

ในส่วนหนึ่งของความร่วมมือธารน้ำแข็งทเวตส์ระหว่างประเทศ (ไอทีจีซี) ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐและสหราชอาณาจักร ทั้งหมด 13 คน ใช้เวลาบนธารน้ำแข็งประมาณ 6 สัปดาห์ เมื่อช่วงปลายปี 2562 และต้นปี 2563 โดยใช้ยานหุ่นยนต์ใต้น้ำที่เรียกว่า “ไอซ์ฟิน” เก็บข้อมูลและติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ตรวจสอบเส้นเกยตื้นของธารน้ำแข็ง ซึ่งน้ำแข็งจะเลื่อนออกจากธารน้ำแข็ง และบรรจบกับมหาสมุทรเป็นครั้งแรก

ในงานศึกษาชิ้นหนึ่งที่นำโดย นางบริตนีย์ ชมิดต์ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ทีมนักวิจัยพบว่า น้ำทะเลอุ่นไหลเข้ารอยแยกและช่องเปิดอื่น ๆ ของธารน้ำแข็ง ทำให้เกิดการละลายด้านข้างอย่างน้อย 30 เมตรต่อปี

นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติงาน ที่ธารน้ำแข็งทเวตส์ ในทวีปแอนตาร์กติกา

“น้ำทะเลอุ่นกำลังเข้าถึงส่วนที่เปราะบางที่สุดของธารน้ำแข็ง และทำให้การละลายแย่ลงกว่าเดิม ซึ่งนั่นคือสิ่งที่พวกเราทุกคนควรกังวลอย่างมาก” ชมิดต์ กล่าวถึงผลการค้นพบที่เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกำลังเข้าถึงทวีปแอนตาร์กติกาที่ห่างไกลได้อย่างไร

นอกจากนี้ ผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งชมิดต์ดำเนินการอยู่ด้วยนั้น แสดงให้เห็นว่า มีการละลายประมาณ 5 เมตรต่อปี ใกล้กับเส้นเกยตื้นของธารน้ำแข็ง ซึ่งแม้ว่ามันจะน้อยกว่าแบบจำลองที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่เธอระบุว่า การละลายยังคงเป็นปัญหาร้ายแรงเช่นเคย.

เครดิตภาพ : REUTERS