มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา อิงค์ บริษัทแม่ของ ‘เฟซบุ๊ก’ และ ‘อินสตาแกรม’ ประกาศว่า บริษัทมีแผนการที่จะเก็บค่าบริการใช้สัญลักษณ์รับรองบัญชีอย่างเป็นทางการ (Meta Verified) ในทำนองเดียวกันกับ ‘ทวิตเตอร์’ โดยจะเป็นค่าบริการรายเดือนขั้นต่ำที่ 11.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 408 บาท) ต่อ 1 บัญชี สำหรับการใช้งานบนเว็บไซต์ และสูงกว่านั้น หากใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการไอโอเอสหรือแอนดรอยด์

ซักเคอร์เบิร์ก เขียนในโพสต์ของเขาบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมว่า ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือว่าเป็นบัญชีของผู้ใช้งานที่มีตัวตนจริงและช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้มากขึ้น  

บริการ Meta Verified จะเริ่มเปิดให้ใช้ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากนั้นจะเปิดให้ใช้ในสหรัฐและประเทศอื่น ๆ ผู้ที่สมัครใช้บริการนี้จะได้รับเครื่องหมายรับรองที่ยืนยันว่าเจ้าของบัญชีมีตัวตนจริง มีสิทธิประโยชน์คือจะได้รับการคุ้มครองในกรณีที่มีผู้อื่นปลอมแปลงบัญชี สามารถเข้าถึงศูนย์บริการช่วยเหลือลูกค้าได้โดยตรง และได้รับโอกาสในการมองเห็นบนหน้าข่าวสารมากขึ้น โดยผู้สมัครต้องส่งหลักฐานซึ่งก็คือบัตรประชาชนหรือบัตรระบุตัวตนอื่น ๆ ที่ออกให้โดยรัฐบาลของประเทศนั้น ๆ 

เมตา อิงค์ ระบุว่า บริการนี้มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือเหล่าผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ต้องการเพิ่มการมองเห็นบนแพลตฟอร์ม และจะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หลังจากผ่านช่วงทดลองไปแล้ว

บริษัทกล่าวว่า สำหรับบัญชีของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ พร้อมกับเสริมว่า ผู้สมัครใช้บริการนี้จะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น และยังไม่เปิดให้บริการสำหรับบัญชีธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า บริการ Meta Verified จะเก็บค่าบริการอย่างไร ในประเทศที่ถือว่าจำนวนเงินราว 12 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนนั้น สูงเกินไป รวมถึงในประเทศที่ยังคงใช้เงินสดเป็นหลัก เนื่องจากเฟซบุ๊กรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กมีสโลแกนที่ผู้ใช้งานคุ้นชินว่า ‘Free and always will be’ (ใช้ฟรีและจะฟรีตลอดไป) ซึ่งเฟซบุ๊กภูมิใจนักหนา แต่ในปี 2562 บริษัทได้นำสโลแกนนั้นออกไปอย่างเงียบ ๆ โดยครั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายรายระบุว่า เป็นเพราะบริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้และนำไปหารายได้ ซึ่งหมายถึงว่าแพลตฟอร์มนี้ ไม่ได้เปิดให้ใช้งาน “ฟรี” อย่างแท้จริง

เครดิตภาพ : AFP