เมื่อวันที่ 28 ก.พ. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีกระทรวงคมนาคมส่งหนังสือถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เพื่อขอข้อมูลและเอกสารหลักฐานปมเงินทอนรถไฟฟ้าสายสีส้ม จำนวน 3 หมื่นล้านบาท ให้ส่งกลับมาที่กระทรวงคมนาคมภายใน 15 วัน เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิด ว่าขณะนี้เหลือเวลาอีก 13 วัน โดยนับจากวันที่ 27 ก.พ. 66

เมื่อถามว่า กระทรวงคมนาคมต้องการส่งเอกสารให้ชัดใช่หรือไม่ ไม่ใช่เน้นแค่ลีลา นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและระเบียบปกติ เมื่อมีการร้องเรียนก็ต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามที่หนังสือกระทรวงคมนาคมแจ้งไป ส่วนกระทรวงคมนาคมจะมีการฟ้องร้องนายชูวิทย์หรือไม่นั้น ตอนนี้ขั้นตอนต่างๆ รอนายชูวิทย์ชี้แจง ซึ่งเราดำเนินการตามปกติ ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่านายชูวิทย์จะมีหลักฐานตามที่กระทรวงคมนาคมขอไปหรือไม่นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ขอให้รอดู

เมื่อถามว่าได้คุยกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือไม่ หลังนายชูวิทย์ได้ไลฟ์สดพาดพิง นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่ได้ดูอะไรเลย

ส่วนการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์เกี่ยวข้องกับเกมการเมืองหรือไม่นั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า รอดูให้ครบ 15 วันก่อน ทำตามกฎหมายทุกอย่างไม่มีการเลือกปฏิบัติ

ทางด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีวันเดียวกันนี้นายชูวิทย์จะเดินทางไป “เผารังหนู” ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำกิจกรรมตัดต้นกัญชาให้ห่างไกลเยาวชนและชี้ให้เห็นมุมมืดของกัญชา โดยนายอนุทิน หัวเราะในลำคอ ก่อนกล่าวว่า บอกแล้วไม่ให้ราคา ก็ไม่ต้องพูดถึง ขอทำงานดีกว่า 3-4 เดือน ยังต้องทำงานอยู่ ส่วนที่มีการมองว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังช่วงการเลือกตั้งนั้น ตนก็บอกมาตลอดว่า มีการเมืองอยู่เบื้องหลังและรู้ด้วยว่าใครอยู่เบื้องหลัง และมั่นใจตัวเราเอง เราจะไปชกกับคนเขาทำไม คนพาลมาก็อย่าไปชก หนีได้ก็หนี

เมื่อถามว่า กลัวว่าเรื่องนี้จะทำให้พรรคเสียคะแนนนิยมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ดูสิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าประชาชนเลือกได้

เมื่อถามว่า มีการพาดพิงถึงนายเนวินค่อนข้างรุนแรง นายเนวินฝากอะไรมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “คุณเนวิน ก็บอกว่า พี่ก็อยู่บ้านของพี่ดีๆ อยู่แล้ว จะไปสู้กับใคร พวกเราเคยสู้กับใครทำงานอย่างเดียว ส่วนเรื่องนี้จะจบอย่างไร ก็ไปถามนายชูวิทย์ เพราะผมจบไปตั้งนานแล้ว ผมไม่เคยเริ่ม”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปล่อยนายชูวิทย์ พูดออกไปเรื่อยๆ แบบนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครสนุก ตนไม่ได้สนุกด้วยและถือว่าไม่มีอะไร พี่น้องตนก็ไม่เห็นมีใครรู้สึกรู้สาอะไรสักคนเลย ทำงานอย่างเดียว

เมื่อถามถึงกรณีนายชูวิทย์ ระบุด้วยว่า ปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยยืมจมูกนายเนวินหายใจไม่ได้จะไปกันใหญ่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมนะเหรอ ไปยืมจมูกคนอื่นหายใจแปลว่ายังไง ไม่เข้าใจ”

เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่านายชูวิทย์ แฉว่านายอนุทิน เคยไปพูดว่ารำคาญนายเนวิน ที่ไม่ปล่อยให้หายใจเอง นายอนุทิน กล่าวว่า “โหว ผมจะไปพูดให้คนอย่างคุณชูวิทย์ฟังได้ไง ผมไม่เคยเอาเรื่องคนในบ้านไปบอกคนนอกบ้านอยู่แล้ว บ้านผมอยู่อบอุ่นดีอยู่แล้ว มีพี่มีน้องมีพ่อแม่ใช่ไหม ภูมิใจไทยอบอุ่นจะตาย มีแต่คนเข้ามาอยู่แล้ว ผมจะไปบอกเอาปัญหาหรือว่าเอาสิ่งที่มันเกิดขึ้นในบ้านผมบอกให้คนนอกฟัง คนนอกแบบวงนอกหาวงไม่เจอด้วยซ้ำ แล้วผมจะไปพูดทำไม แค่ก็ตรงนี้ก็วิเคราะห์ได้แล้วว่าใครพูดเท็จ ไม่มีอะไรไปโต้ตอบ ผมถึงบอกอย่าไปถามเรื่องพวกนี้เลย ไม่มีประโยชน์ ไม่มีอะไรไปโต้ตอบ เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้น และมันไม่ใช่สิ่งที่จะไปชกให้ชาวบ้านสนุก มันไม่ใช่ ผมก็อยู่ของผมแบบนี้”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ถ่มน้ำลายใส่ภาพของนายเนวิน นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่รู้สึกอะไรเลย เชื่อว่าถ้าเขาเจอคุณเนวิน ดูซิเขาจะทำอย่างนั้นหรือเปล่า ถ้าเขาทำอย่างนั้น เจอคุณศักดิ์สยามเขาจะทำอย่างนั้นหรือเปล่า ถ้าทำต่อหน้าก็ค่อยว่ากันอีกที” 

เมื่อถามถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขไปตรวจบาร์ขายกัญชา ในโรงแรมของนายชูวิทย์ เป็นการกลั่นแกล้งนายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ ซึ่งตนปล่อยวางอะไรก็ปล่อยวางจริงๆ บางทีคนก็บ่นเหมือนกัน เวลานิ่งไม่สนใจอะไรเลย เพราะจริงๆ ตนมีงานอื่นทำจะไปสั่งให้ตรวจร้านไม่ใช่เรื่อง ไม่เคยคิดอยู่ในหัว มโนกันไปเอง ไม่ใช่หน้าที่ผมให้ไปบอกให้ไปตรวจร้านกัญชาที่ไหน มีเจ้าหน้าที่พนักงานทำงานตามปกติ ส่วนจะไปถามเรื่องนี้ต่อเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น ตนไม่แคร์ ก็ไม่ถาม เขาทำหน้าที่ตามปกติอยู่แล้วจะไปถามทำไม

ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ยื่นหนังสือกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล และยังได้ออกมาพูดโจมตีพรรคภูมิใจไทยด้วย ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเป็นเกมการเมืองว่า ไม่ได้เกี่ยวกับพรรค รทสช. ต้องมองว่าที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 1 ปี นายชูวิทย์ก็วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มาตลอด แต่นายกฯ ไม่เคยตอบโต้เลย ตนรู้จักกับนายชูวิทย์ เดินสวนกันไปมาหลายครั้ง ก็ไม่เคยโกรธ เพราะนายชูวิทย์ทำหน้าที่ของเขา ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคด้วยว่า พรรค รทสช. ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง หรือไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายชูวิทย์ ต่างคนต่างมีหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ติดใจตรงที่นายพีระพันธุ์มารับหนังสือจากนายชูวิทย์ด้วยตัวเอง นายธนกร กล่าวว่า นายพีระพันธุ์มารับหนังสือในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหากย้อนดูหลายเรื่องที่นายชูวิทย์พูด ก็มีเรื่องที่เป็นประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลดำเนินการมาตลอด และตรงไหนที่ยังไม่ได้ทำ เราจะดำเนินการ

“เรื่องนี้อย่าไปคิดว่าพรรคไหนอยู่เบื้องหลัง และความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกับนายกรัฐมนตรี ก็ดีมาตลอด ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ให้เกียรติซึ่งกันและกันมาตลอด เรื่องนี้ต้องแยกออกจากกัน การวิพากษ์วิจารณ์ของนายชูวิทย์ เป็นสิ่งที่เขาสามารถทําได้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกผม” นายธนกร กล่าว