จากกรณีที่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการระบุว่า กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เตรียมออกหมายเรียก นายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ สามีของนักแสดงสาวชื่อดัง หยาดทิพย์ ราชปาล เพื่อเข้าให้การในฐานะพยาน ชี้แจงถึงการครอบครองทรัพย์สิน เพนท์เฮาส์หรูย่านสุขุมวิท เนื่องจากคณะธุรกรรม หรือ บอร์ด ปปง. ได้มีการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีแชร์ FOREX-3D จำนวนหลายรายการ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ เพนท์เฮาส์ดังกล่าว อดีตเป็นทรัพย์สินของนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหาร Forex-3D ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากการถูกดำเนินคดีแชร์ Forex-3D อย่างไรก็ตาม เพนท์เฮาส์ดังกล่าว นายรามาได้รับซื้อมาจากบริษัทนายหน้าเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนที่นายอภิรักษ์ โกฎธิ จะถูกดำเนินคดี โดยที่ทั้งนายรามาและนายอภิรักษ์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันในเรื่องการลงทุน หรือร่วมหุ้นในธุรกิจ Forex-3D และทั้งคู่ก็ไม่ได้รู้จักกันแต่อย่างใด ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ได้รับการเปิดเผยจากนางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า เบื้องต้นทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ พนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียก นายเมฆ-รามา รัศมีรามา ให้เข้ามาชี้แจงให้การในฐานะพยานเกี่ยวกับเรื่องการรับซื้อเพนท์เฮาส์ดังกล่าว ในวันที่ 9 มี.ค.นี้

ขณะที่ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียกในฐานะพยานกับนายรามา เพียงแค่รายเดียว ส่วนกรณีของหยาดทิพย์ ภรรยา ยังไม่ได้มีการออกหมายเรียก เนื่องจากไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มีเพียงนายรามาเท่านั้น เนื่องจากปรากฏชื่อเป็นผู้ครอบครองเพนท์เฮาส์ดังกล่าวจากการรับซื้อผ่านทางบริษัทนายหน้าเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนบริษัทเอกชน ดีเอสไอเคยมีการเรียกสอบไปแล้ว จึงไม่ต้องดำเนินการเรียกสอบในฐานะพยานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การรับซื้อขายเพนท์เฮาส์แห่งนี้ของนายรามาตนยืนยันว่าเป็นการซื้อขายก่อนที่นายอภิรักษ์ โกฎธิ จะถูกดำเนินคดี Forex-3D อีกทั้งจากแนวทางการสืบสวนที่ผ่านมาของคณะทำงานไม่มีข้อมูลปรากฏว่านายรามา กับ นายอภิรักษ์ เกี่ยวข้องกันหรือรู้จักกัน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวภายในกระทรวงยุติธรรม ว่า สำหรับกรณีของนายเมฆ รามา ตนทราบเบื้องต้นว่าทางพนักงานสอบสวนที่ดูแลเกี่ยวกับสำนวนฟอกเงิน ซึ่งเป็นเลขคดีเดียวกับของ นายปราปต์-ปราปต์ปฎล สุวรรรณบาง ได้มีการออกหมายเรียกเพื่อให้นายรามาเข้าให้การชี้แจงในประเด็นที่มาของการรับซื้อเพนท์เฮาส์ ที่มาการรู้จักกันกับทางบริษัทนายหน้าเอกชน รวมถึงคาดว่าจะสอบถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ว่ารู้จัก นายอภิรักษ์ โกฎธิ มาก่อนหรือไม่ หรือทราบเรื่องที่นายอภิรักษ์มีการทำธุรกิจ Forex-3D หรือไม่ จากนั้นพนักงานสอบสวนจะมีการตรวจสอบคำให้การต่างๆ ประกอบกับพยานหลักฐานส่วนอื่นๆ เพื่อพิจารณาว่าเข้าองค์ประกอบความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ แต่ถ้าหากนายรามาชี้แจงได้ครบถ้วนทุกประเด็นก็จะยังคงฐานะพยานไม่ถูกแจ้งข้อหา ซึ่งก็เป็นไปตามขั้นตอนการทำงานของพนักงานสอบสวนที่จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้ความเป็นธรรมและเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง.