เมื่อวันที่ 14 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทน รมว.คมนาคม เสนอเรื่องขออนุมัติผลการคัดเลือกเอกชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ที่ถือเป็นการประชุมนัดสุดท้ายในฐานะรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม ว่า “ผ่านเรื่องไปแล้ว ไม่รู้เข้าหรือเปล่า ต้องอยู่ที่ ครม.”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรัฐมนตรีบางคนออกมาคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ นายอนุทิน พยักหน้าโดยไม่ตอบคำถาม แล้วเดินเข้าสู่ห้องประชุม ครม.ในทันที

ทางด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีเดียวกันว่า การพิจารณาเรื่องใดก็ตามในที่ประชุม ครม.นั้น จะต้องมีการกลั่นกรองในแง่กฎหมายที่มีการสงสัยจนให้ได้ความชัดเจนและตกลงกันให้ได้ก่อนในส่วนของกระทรวงผู้นำเสนอเรื่อง แล้วจึงค่อยนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ทั้งนี้ กรณีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มีประเด็น 2 เรื่อง คือ 1.มีความไม่แน่นอนจากกรณีมีผู้ไปยื่นเรื่องร้องต่อศาลปกครอง และ 2.หาก ครม.พิจารณาเรื่องที่ยังไม่มีความชัดเจนในข้อกฎหมาย ครม.อาจมีความเสี่ยงในการพิจารณาและตัดสินใจ

นอกจากนี้ ตนเห็นว่าเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม หาก ครม.อนุมัติในเวลานี้ขณะที่ยังมีข้อสงสัยของสังคมว่าโครงการดังกล่าวยังมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส ความสุจริต เรื่องผลประโยชน์ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญ และทำให้คิดว่าถ้าเรามีการอนุมัติในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่น จะทำให้ ครม.ทั้งคณะ รวมถึงผู้ที่จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวจะถูกตั้งข้อสงสัยจากประชาชน หากเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา ครม.ในรูปของวาระจร จะทำให้ ครม.ตอบสังคมได้ยากเช่นกัน ดังนั้น จากเหตุผลทั้งหมดนี้ ครม.จะต้องพิจารณาให้รอบคอบ

นายสาธิต กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเสนอเรื่องรถไฟฟ้าสีส้มเข้าสู่ ครม.ในวันนี้ ตนยืนยันว่า จะเสนอความเห็นดังกล่าวต่อประชุมให้รับทราบ ส่วนรัฐมนตรีคนอื่น ๆ จะเห็นเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ออกมาจำนวนมากในเวลานี้สีมีอยู่แล้ว ตอนนี้มันมีความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชน ความไม่ชัดเจนของข้อกฎหมาย และช่วงเวลา ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ควรได้รับการพิจารณาให้ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยังมีการดึงดันนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. เกรงว่าจะกลายเป็นสิ่งที่ติดตัวของผู้เข้าร่วมประชุม ครม.วันนี้หรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ต้องแยกออกเป็น 2 เรื่อง ถ้า ครม.อนุมัติโครงการดังกล่าวแล้วต่อมาศาลปกครองพิพากษาว่า การประมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย ครม.ที่เป็นผู้อนุมัติจะต้องมีปัญหาในเรื่องข้อกฎหมาย ขณะเดียวกัน ยังมีข้อสงสัยของสังคม

เมื่อถามว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเตือน ครม.ว่า หากพิจารณาวาระนี้เป็นการทิ้งทวน จะเหมือนขาเข้าคุกข้างหนึ่ง นายสาธิต กล่าวว่า นั่นเป็นข้อมูลด้านหนึ่งที่สังคมและประชาชนให้ข้อคิด แม้จะไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมดแต่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่ ครม.ต้องนำมาพิจารณาด้วย เพราะ ครม.มาจากนักการเมือง นักการเมืองต้องฟังเสียงของประชาชน แต่ถ้ามั่นใจว่าทำถูกต้องก็ทำได้ แต่ถ้าเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนในข้อกฎหมายก็ไม่ควรลงมติให้ความเห็นชอบ ซึ่งส่วนตัวจะลงมติไม่เห็นด้วย ถ้าใครลงมติเห็นชอบก็ไปรับผิดชอบทางกฎหมายต่อไป

เช่นเดียวกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้เรื่องของรถไฟฟ้าสายสีส้มยังค้างการพิจารณาของศาลปกครองอยู่ ถึง 2 คดี และยังมีประเด็นอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ด้วย ดังนั้น หากวันนี้มีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตนคิดว่าครม. ควรจะต้องชะลอออกไปก่อน รอให้การตัดสินของศาลปกครอง 2 คดี ซึ่งเป็นคดีที่สังคมจับตามอง และคำพิจารณาของ ป.ป.ช. ให้เรียบร้อยก่อน ครม. ควรจะได้รับการชี้แจงให้เรียบร้อยก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณา


ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวหากเข้าที่ประชุมจริงจะโหวตเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย  นายวราวุธ กล่าวว่า “ถ้าเข้ามาจริง ๆ ก็อยากขอให้ชะลอ เพราะถ้า ครม.เห็นชอบไปแล้ว มีการตัดสินของศาลขึ้นมา มันอาจขัดแย้งกับ ครม. ที่มีมติออกไปซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาภายหลังได้ อย่าลืมว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ใหญ่ สังคมจับตามองดูอยู่ ดังนั้น ควรจะมีความชัดเจน ทั้งเรื่องของคดีความและการดำเนินการ และถ้าหากมีการนำเข้าจริงเลยในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ก็เห็นว่าควรชะลอก่อน”