เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคก้าวไกล ว่า ในวันที่ 22 มี.ค. 66 พรรคก้าวไกล จะเปิดตัวทีมเศรษฐกิจของพรรค จำนวน 7 คน ประกอบด้วย ส.ส. นักวิชาการ ข้าราชการ และนักธุรกิจ มีตั้งแต่คนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง จนถึงรุ่นใหญ่ โดยจะเสนอนโยบายทั้งด้านชนบทและเมือง โดยใช้ประสบการณ์ทั้งจากด้านดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมไฮเทค

สำหรับรายชื่อทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล มีดังนี้ นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร หรือ “ต้น” ปัจจุบันเป็นรองศาสตราจารย์ที่ National Graduate Institute for Policy Studies (GRIPS) มหาวิทยาลัยด้านนโยบายสาธารณะ แห่งกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำงานวิจัยเรื่องเสือเศรษฐกิจแห่งเอเชีย และกับดักรายได้ปานกลาง เป็นผู้เขียนหนังสือ “เศรษฐกิจสามสี: เศรษฐกิจแห่งอนาคต” โดยจะมาผลักดันเรื่องซัพพลายเชนอุตสาหกรรมไฮเทคโลก

นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล หรือ “ดร.ชาย” ปัจจุบันเป็นกรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi เป็นผู้พิพากษาสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศ โดยจะเสนอแนวทาง 5 ต. มีนโยบายอย่าง หวยใบเสร็จ และเพิ่มแต้มต่อ เพื่อพัฒนา SME ไทยให้เติบโต

นายวรภพ วิริยะโรจน์ หรือ “เติ้ล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในแกนนำพรรคด้านเศรษฐกิจ โดยจะเสนอนโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ที่มีจุดเด่นต่างจากพรรคอื่น ด้วยแนวทางลดค่าใช้จ่ายให้กับคนธรรมดา และภาคธุรกิจ ผ่านการปรับนโยบายพลังงานของไทยอย่างเป็นระบบ

นายอภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันเป็น 1 ใน 100 รายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้ง 2566 โดยนายอภิสิทธิ์ ปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการสำนักการตลาด กทม. เป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย เคยเป็นอดีต ผอ.ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA)

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร หรือ “ดร.โจ” ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทางการเงิน และนักยุทธศาสตร์ด้านข้อมูล อดีตรอง ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร มีส่วนผลักดันโครงการพัฒนาเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) สำหรับชำระเงินระหว่างประเทศ โดยจะมาผลักดันนโยบายแปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์

นายเดชรัต สุขกำเนิด ผอ.ศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต (Think Forward Center) ของพรรคก้าวไกล อดีตอาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ คนผลักดันด้านนโยบายต่าง ๆ ของพรรคก้าวไกล จะนำเสนอนโยบายปลดล็อกชีวิตเกษตรกรไทย และหยุดแช่แข็งชนบทไทย

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจก้าวไกล เคยเป็น ผอ.ฝ่ายนโยบาย พรรคอนาคตใหม่ โดยเป็นประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจของสภาฯ และมักอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจ และการผูกขาดของกลุ่มทุน

ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล จะนำเสนอในประเด็น 7 วาระเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย คือ Made with Thailand, เปิดโอกาส เปิดตลาด SME, ทลายทุนผูกขาดลดค่าครองชีพ, Unlock เศรษฐกิจสร้างสรรค์, แปลงข้อมูลเป็นขุมทรัพย์, หยุดแช่แข็งชนบทไทย และยกเครื่องภาครัฐ นำเศรษฐกิจไทยก้าวหน้า โดยพรรคก้าวไกลต้องการให้เศรษฐกิจไทยเติบโตแบบเป็นธรรม คือเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย และมีการกระจายดอกผลของการเติบโตอย่างเป็นธรรมด้วย หรือที่เรียกว่า Inclusive Growth เป้าหมายมี 3 ส่วนคือ วางรากฐานชีวิตคนไทยให้มั่นคง สร้างกติกาการแข่งขันที่เป็นธรรม และพาธุรกิจไทยไปบุกตลาดโลก

ทางด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.สงขลา และปัตตานี เพื่อแนะนำแนวนโยบายพรรคก้าวไกลและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.

โดยช่วงเช้า ได้เดินทางไปที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมืองปัตตานี โดยมี นายรอมฎอน ปันจอร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และทีมงานพรรคก้าวไกล จ.ปัตตานี ต้อนรับและนำชมสถานที่ จากนั้น นายพิธาและคณะ พบผู้ประกอบการในพื้นที่และรับฟังปัญหาด้านต่าง ๆ รวมถึงรับฟังความเห็นต่อนโยบายของพรรคก้าวไกล เพื่อนำไปปรับรายละเอียดเนื้อหาให้ตอบโจทย์ประชาชนได้มากที่สุด พบว่าหลายคนสะท้อนปัญหาระบบราชการที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ และให้ความสนใจนโยบายปฏิรูประบบราชการ นโยบายรัฐสวัสดิการ และนโยบายประมงของพรรคก้าวไกล

ต่อมา พิธา และคณะเดินทางต่อไปที่ จ.สงขลา รณรงค์นโยบายและแนะนำว่าที่ผู้สมัคร น.ส.วชิราภรณ์ นิรันตราภรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2 และ นายฌาฆีภัตฐ์ เพชรคง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2

นายพิธา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่ากระแสตอบรับของประชาชนในภาคใต้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มั่นใจว่าครั้งนี้ พรรคก้าวไกล จะได้คะแนนในภาคใต้มากกว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ และมีลุ้นมี ส.ส.เขตในภาคใต้แน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ประชาชนมีความต้องการการเปลี่ยนแปลงสูง ประกอบกับพรรคก้าวไกล มีนโยบายสันติภาพก้าวหน้าที่ตอบโจทย์ปัญหาของประชาชน โดยวันนี้เป็นการลงพื้นที่หลังยุบสภา พรรคก้าวไกล ยืนยันว่า เรามีความพร้อมเต็มที่ ทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และนโยบาย ที่จะสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนว่าเลือกก้าวไกลไม่ใช่แค่เพื่อเปลี่ยนรัฐบาล แต่เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

พร้อมกันนี้ นายพิธาได้อวยพรพี่น้องมุสลิมเนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน ความตอนหนึ่งว่า ยินดีที่ได้ร่วมต้อนรับเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ขอให้พี่น้องมุสลิมมีสุขภาพกาย ใจ ที่แข็งแรง เพื่อถือศีลอดในช่วงกลางวัน และปฏิบัติศาสนกิจตลอดทั้งเดือนรอมฎอน ขอให้คุณงามความดี และพร ดูอาอ์ ของทุกท่านได้ถูกตอบรับ ในสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย การเมืองที่อิงบนผลประโยชน์ส่วนตัว การผูกขาดอำนาจ รวมทั้งกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่เห็นหัวประชาชน ขอให้เดือนอันประเสริฐนี้ สิ่งที่ผิดพลาดเหล่านี้ถูกขจัดออกไป และรอมฎอนนี้ขอให้เราได้รับทางนำสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมที่ดี ก้าวไกล และสันติภาพก้าวหน้า

ขณะที่ นายพริษฐ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังปรากฏเป็นหนึ่งใน 100 รายชื่อ ผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเพื่อเข้ารับกระบวนการรับฟังความเห็นเพื่อคัดเลือกเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยยังไม่ได้จัดลำดับอย่างเป็นทางการของพรรคก้าวไกล จากนี้มีแนวทางจะทำงานทางการเมืองอย่างไรต่อไป ว่าที่ผ่านมาตนรับผิดชอบเรื่องการณรงค์และการสื่อสารนโยบาย โดยเป็นการพยายามรวบรวมชุดข้อเสนอต่าง ๆ เกี่ยวกับนโยบายของพรรคก้าวไกลในทุกประเด็น และนำมาจัดทำเป็นชุดนโยบาย 9 ชุด ที่เสนอให้กับประชาชนในการเลือกตั้ง คือ 1.เรื่องการเมือง 2.เรื่องสวัสดิการ 3.เรื่องการกระจายอำนาจ 4.เรื่องการปฏิรูประบบราชการ 5.เรื่องการศึกษา 6.เรื่องเกษตรและที่ดิน 7.เรื่องสิ่งแวดล้อม และ 8.เรื่องสุขภาพสาธารณสุข เป็นต้น โดยวันที่ 22 มี.ค.นี้ พรรคจะเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ และนโยบายเศรษฐกิจ จึงรวมเป็น 9 นโยบาย ตนเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจัดทำนโยบาย และรณรงค์สื่อสารนโยบายทั้ง 9 นี้ ให้กับประชาชน

เมื่อถามว่า จากการประเมินความนิยมของพรรคก้าวไกล คาดหวังว่าจะได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า เราทำงานกันเต็มที่ ในการพยายามขอความไว้วางใจจากประชาชนให้ได้มากที่สุด