เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้มีหนังสือคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ 77/2556 ลงวันที่ 22 มี.ค. 66 เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ใจความว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลในสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอุ้มรีดเงินชายชาวจีน โดยนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อาชีพล่ามแปลภาษาจีน ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลดินแดง ว่าถูกกลุ่มคนร้ายคล้ายตำรวจอุ้มรีดเงินจากชายชาวจีน ทราบภายหลังว่าชื่อ นายตี้ (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี สัญชาติจีน

โดยต่อมาในวันเดียวกันได้โอนเงินจากประเทศจีน ให้กลุ่มคนร้ายดังกล่าวเป็นเงินจำนวนกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนเชื่อว่า มีข้าราชการตำรวจในสังกัดกองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าว โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายจับแล้วนั้น

ไล่ยึดรถของกลางแก๊ง ตม.อุ้มรีดเงินชาวจีน นายหน้าปัดเอี่ยวร่วมกระทำผิด

เพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 66 มาตรา 105 มาตรา 179 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และข้อ 6 (2 ) ข้อ 8(2) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2563 จึงให้ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 และ พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รองผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (งานสืบสวนและป้องกันปราบปราม) ที่รับผิดชอบงานศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มอบหมาย

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 2 รายดังกล่าว ไปรายงานตัวต่อรองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (งานสืบสวนและป้องกันปราบปราม) ในเวลา 08.30 น. ของวันที่ 23 มี.ค. 2566

สำหรับคำสั่งให้ไปช่วยราชการ 2 นายตำรวจข้างต้นนั้น เป็นไปมาตรการทางการปกครองของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212 ที่ระบุไว้ว่า หากพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาได้กระทำผิด ให้สอบสวนผู้บังคับบัญชา 2 ลำดับชั้น