เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 24 มี.ค. ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 3/2566 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยที่ประชุมมีการหารือเรื่องการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร ตามที่ได้มีการออกประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร 2566 รวมทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศกำหนดการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กำชับให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำให้หน่วยงานในกำกับสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรตามแนวทางที่ กกต.กำหนด รวมทั้งกำชับกำลังพลในสังกัด ให้ปฏิบัติราชการในหน้าที่ด้วยการวางตัวเป็นกลาง ตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ กกต.ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา เรื่อง แนวทางปฏิบัติอันเนื่องมาจากการยุบสภาผู้แทนราษฎรอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ที่ประชุมมีการกำชับเรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (ฝุ่น PM 2.5) ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ดำรงความต่อเนื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 โดยบูรณาการความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้การจัดเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์อากาศยาน และอากาศยานไร้คนขับ พร้อมสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามที่ได้รับการร้องขอได้อย่างทันท่วงที มีประสิทธิภาพ และไม่เกิดความซ้ำซ้อน ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง อาทิ การจุดไฟเผาป่า การเผาในพื้นที่การเกษตร อีกทั้ง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ได้ทราบถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างถูกต้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ มีอาการเนือย ๆ นิ่ง ๆ ไม่ได้หยอกล้อกับ ผบ.เหล่าทัพ เหมือนที่ผ่านมา จึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างอึมครึม โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมว่า การทำงานบริหารราชการแผ่นดินหลายเรื่องใช้เวลาทำมาหลายปี แต่ยังไม่เห็นผล ทั้ง ๆ ที่สั่งการไปแล้ว แต่ยังไม่คืบหน้า ก็ขอให้ช่วยกันขับเคลื่อนให้สำเร็จต่อไปด้วย

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ในภายหลังกรณีกองทัพถูกจับตาในเรื่องของความเป็นกลางทางการเมืองเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่า ได้มีการแถลงไปแล้ว พูดไปแล้วว่า ต้องสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย ในเรื่องของการเลือกตั้ง ก็แล้วแต่ และการจะเข้าไปในหน่วยทหารก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ก็ต้องให้ทุกพรรคการเมือง ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน หลักการมีเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพี่น้องผู้บัญชาการเหล่าทัพ นายกรัฐมนตรีแค่นเสียง พร้อมกล่าวว่า “โธ่ เว้ย” ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์

จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอีกว่าช่วงนี้ต้องมีระยะห่างจากผู้บัญชาการเหล่าทัพชั่วคราวหรือไม่ เพราะเป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่าคนละเรื่องกัน โตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องมาสอน ไม่ต้องมาบอกอะไรกันมากมาย รักกันดีทุกคน ไม่มีปัญหา นั่นเรื่องของการเมือง ทหารต้องเข้มแข็ง เพื่อที่จะสร้างอนาคตของเรา ความรักความสามัคคีของเหล่าทัพ

เมื่อถามอีกว่า มีการจับจ้องว่าทหารจะเอียงไปทางนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “มีแต่เธอที่คิดแบบนั้น” ก่อนจะขึ้นรถยนต์ออกจากศาลาว่าการกระทรวงกลาโหมออกไปทันที