เมื่อวันที่ 16 เม.ย. จากกรณีนายเจริญกิจ แซ่หลอ อายุ 38 ปี ถูกคนร้ายขับรถประกบและเบียดให้จอดลงข้างทาง ใช้อาวุธปืนยิงขาบาดเจ็บก่อนคุมตัวไปขึ้นรถอีกคันต่อหน้าต่อตาภรรยาและญาติของนายเจริญกิจที่นั่งมาด้วย ก่อนขับหลบหนีไปเส้นทางสู่จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่บริเวณลานจอดรถใกล้กับร้านเหลียงซานคอฟฟี่ฮิลล์ ริมทางหลวงหมายเลข 12 ถนนสายพิษณุโลก – หล่มสัก ในพื้นที่ ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาได้พบรถยนต์คันที่ก่อเหตุถูกเผาทิ้งในพื้นที่เขากะโป อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และพบศพนายเจริญกิจ ช่วงบนถูกเผาจนเหลือแต่กระดูก แต่ช่วงล่างไม่ถูกไฟไหม้ โดยศพอยู่ห่างจากจุดที่พบซากรถประมาณ 1 กม.

ล่าสุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบ.ตร. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.เข็มชาติ ประจง ผกก.สภ.เขาค้อ รายงานความคืบหน้า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยหลังการประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งเป็นการทวงหนี้ของแก๊งยาเสพติดที่คาดว่ามีวงเงินประมาณ 20 ล้านบาท

ผู้การเพชรบูรณ์สั่งล่าแก๊งโหดยิง-อุ้มผัวต่อหน้าเมียรัก ลั่นรีบปล่อยตัวประกันโทษหนักจะเป็นเบา

ขณะนี้ทราบตัวผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว มีทั้งหมด 7 ราย จับกุมตัวได้แล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างหลบหนี 5 ราย ซึ่งทั้งหมดได้ออกหมายจับแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 อาทิตย์ ก็จะจับกุมตัวได้ทั้งหมด นอกจากนั้นยังได้ดำเนินการตรวจยึดรถที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มาได้ถึง 5 คัน ที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ กัน เช่นใช้ติดตามความเคลื่อนไหวผู้เสียชีวิต ใช้มารับตัวผู้ก่อเหตุหลังก่อเหตุเสร็จแล้ว รถที่คอยช่วยเหลือรถที่ใช้ก่อเหตุ เป็นต้น

สำหรับแก๊งยาเสพติดที่ก่อเหตุในครั้งนี้มีความเกี่ยวโยงกับแก๊งยาเสพติดในพื้นที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย จึงได้ให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลูกเมีย หากมีความเกี่ยวข้องเกี่ยวพันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องดำเนินการจับกุมทั้งหมด

ด้าน น.ส.วาสนา แซ่ย่าง อายุ 31 ปี ภรรยานายเจริญกิจ ซึ่งเดินทางมารอพบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนตกใจเป็นอย่างมากและจำใครไม่ได้ เนื่องจากคนร้ายสวมหมวกบิดบังใบหน้าทั้งหมด ซึ่งการกระทำครั้งนี้โหดร้ายมาก ถึงกับต้องฆ่าและเผา ตนจึงอยากจะวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด.