เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงสูตรการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบไขว้ชนิดวัคซีน ในประเทศไทย ว่า การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ด้วยวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 ตามด้วยแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์ นั้นพบว่าภูมิคุ้มกันขึ้นสูงเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนแอสตราฯ 2 เข็มที่จะต้องฉีดห่างกัน 10-12 สัปดาห์ และต้องรอให้ภูมิคุ้มกันขึ้นในระดับที่สามารถป้องกันโรคได้อีก 2 สัปดาห์รวมเป็น 14 สัปดาห์ เทียบแล้วการฉีดสูตรไขว้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันสูงในเวลา 5 สัปดาห์ จุดต่างระหว่าง 5 กับ 14 สัปดาห์ มีความสำคัญอย่างมากในเวลาที่เราเจอกับเชื้อที่มีการแพร่กระจายเยอะและเร็ว เพราะต้องแข่งกับเวลา   

นพ.ประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การที่ระบุว่า ฉีดวัคซีนแอสตราฯ เพียงเข็มแรกก็สามารถป้องกันโรคได้ นั่นเป็นข้อมูลที่ถูกต้องสำหรับสายพันธุ์อัลฟา แต่กับสายพันธุ์เดลตาไม่ใช่แบบนั้น มีงานวิจัยในต่างประเทศพบว่าแอสตราฯ เข็มเดียวไม่เพียงพอต่อเชื้อเดลตา ต้องฉีด 2 เข็ม ที่สำคัญคือเมื่อเวลาผ่านไป ภูมิฯ ที่เกิดจากการฉีดวัคซีนจะลดลง หากไม่กระตุ้นให้ทันก่อนที่จะลดต่ำมาถึงจุดที่ไม่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้ก็จะเกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ มีข้อมูลผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง ที่ฉีดวัคซีนแอสตราฯ เข็มแรก ยังไม่ได้รับเข็มที่ 2 แต่เกิดการติดเชื้อจนเสียชีวิต ดังนั้น ระบบการจัดการบริหารวัคซีนที่ดี คือ เร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้สูง ให้เร็ว เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะติดเชื้อเมื่อไหร่ จึงเป็นเหตุผลหลักที่นำสูตรไขว้มาใช้.