ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เป็นภาพประวัติศาสตร์ของประเทสไทย ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ของ 8 พรรคการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม และพรรคพลังสังคมใหม่

แต่ในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวดังกล่าว ทาง “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้ขอกล่าวถึงความรู้สึก สำหรับกรณีรัฐประหาร ว่าการยึดอำนาจของประชาชนเมื่อ 9 ปีที่แล้ว วันที่ 22 พ.ค. 2557 วันนั้นตนนั่งอยู่ในห้องประชุมกองทัพบก ด้วยความเศร้าใจอย่างยิ่ง ตนต้องนั่งฟัง คำประกาศยึดอำนาจ จากอดีต ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ซึ่งก็คือ นายกฯ ในขณะนี้ พร้อมขอโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาทำงาน เพื่อพิสูจน์ตัวเอง

โดยเขาได้กล่าวทั้งหมดว่า “ผมอยากจะเรียนว่าเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 ผมนั่งอยู่ในห้องประชุมกองทัพบกที่ถนนวิภาวดีฯ วันนั้นด้วยความเศร้าใจอย่างยิ่ง ผมต้องนั่งฟังคำประกาศยึดอำนาจจากผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ซึ่งคือนายกฯ ในขณะนี้ ผมฟังท่านยึดอำนาจแล้ว ผมก็มีความคิดว่าประชาชนคนไทย 70 กว่าล้านคน ถูกคนประกาศยึดอำนาจง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ

ผมขอให้การกระทำเมื่อ 9 ปีนั้น จากผู้มีอำนาจท่านใดก็แล้วแต่ ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายของประเทศไทย วันนี้พวกเราทั้งหลายที่นั่งอยู่ที่นี่ เรามาเพื่อกระจายอำนาจ กระจายความหวัง และกระจายความสุขให้กับประชาชนของเราทุกคน ผมจึงอยากวิงวอนต่อทุกฝ่าย หรือทุกคน ที่อาจจะเห็นตรงกันหรือคิดต่างกันก็ได้ ขอให้ท่านให้โอกาสกับพวกผม พวกเราที่อยู่ที่นี่ โดยคุณพิธาเป็นผู้นำ ได้ทำงานให้ประชาชน

ก็ในเมื่อท่านให้อำนาจ ให้โอกาสกับคนทำรัฐประหารมาตั้ง 9 ปีมา โดยไม่สามารถจะคัดค้านได้เลย แต่วันนี้ถ้าท่านไม่ให้โอกาสพวกเรา ซึ่งเข้ามาจากอำนาจของประชาชน และเราพร้อมที่จะทำงานเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากวิงวอนทุกฝ่ายได้โปรดให้โอกาส

ท่านอาจจะไม่พอใจว่ามันไม่ได้ 100% หรือความต้องการของท่านไม่ได้เต็มที่ ได้บ้าง ผมอยากจะเรียนวิงวอนว่า การเจรจา การทำงานใดๆ ไม่มีใครได้ 100 นึงหรอกครับ มันต้องมีการถอยกันคนละก้าว เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง คนที่มีความหวังไม่ใช่แค่คนหนุ่มสาว แม้แต่ผม ผมอายุ 79 ปี และคนวัยเดียวกับผมอีกเยอะที่มีความหวัง อยากจะเห็นประเทศนี้เปลี่ยนแปลงได้แล้ว ผมขอวิงวอนเถอะครับ ใครมีอำนาจ ใครมีพลัง โปรดใช้อำนาจ และพลังนั้นให้คนที่อยากทำงานเพื่อประชาชนได้มีโอกาสทำงานครับ”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่สปีชดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตชื่นชมกันเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่า ประทับใจ เป็นคำที่กินใจและอยู่ในใจคนไทยมาอย่างนาน อีกทั้งยังมีกาารตัดคลิปตัดกล่าวมาแชร์ต่อในสังคมออนไลน์กันเป็นอย่างมาก จนมียอดวิวแต่ละคลิปหลักแสนครั้งอีกด้วย..