เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่ท้องสนามหลวง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. คาดว่าจะรับรองร้อยละ 95 ได้เมื่อไหร่ เพราะพรรคการเมืองคาดหวังว่า กกต. จะรับรองได้ไว เพื่อพรรคการเมืองจะได้จัดตั้งรัฐบาล ว่า ก็เร็วกว่าครั้งที่แล้ว และเร็วกว่า 60 วันแน่ๆ มันยังมีขั้นตอนทางกฎหมายบางประการที่ กกต. มีหน้าที่ดำเนินการ คือการตรวจสอบก่อนว่า 95,000 กว่าหน่วยเลือกตั้ง มีหน่วยไหนที่จะต้องมีเหตุสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ออกเสียงลงคะแนนใหม่หรือนับคะแนนใหม่ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของ กกต. ในเร็วๆ นี้ หลังจากนั้นกระบวนการจะใช้เวลาไม่มาก ก็จะมีความชัดเจนว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่

เมื่อถามว่าเบื้องต้นคาดว่าปลายเดือน มิ.ย. นี้ น่าจะประกาศได้หรือไม่ เพราะครบรอบ 30 วัน ในวันที่ 13 มิ.ย. นายอิทธิพร กล่าวว่า ก็จะพยายาม คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน กกต. ตระหนักดีถึงความจำเป็นของการประกาศผลการเลือกตั้งจะต้องไม่ช้า แต่มันมีขั้นตอนทางกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติอย่างที่ได้เรียนไปแล้ว ย้ำว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด

เมื่อถามต่อว่า มาจนถึงขณะนี้ กกต. มีคำร้องที่เกี่ยวกับว่าที่ ส.ส. ที่ชนะการเลือกตั้ง ที่จะทำให้ไม่ได้ประกาศรับรองเยอะหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตัวเลขคำร้องเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา มี 280 กว่า ส่วนผู้ที่เลือกตั้งชนะ ถ้าจำไม่ผิดมีประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งตอนนี้จะต้องขอตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ โดยจะต้องมีการสั่ง 3 อย่าง คือ 1.สั่งเลือกตั้งใหม่ 2.สั่งนับคะแนนใหม่ และ 3.สั่งออกเสียงลงคะแนนใหม่

เมื่อถามอีกว่าตามกฎหมายที่ให้ประกาศรับรองร้อยละ 95 เบื้องต้นจะมีการรับรอง 475 คน ใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ใช่ ตัวเลขเป็นเช่นนั้น แต่ว่าเราคิดว่าถ้าเผื่อประกาศได้ 100 ได้ เราก็ประกาศ เพราะกฎหมายระบุว่าประกาศร้อยละ 95 เป็นอย่างต่ำ

เมื่อถามถึงกรณีการถือหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอนนี้คำร้องอยู่ในขั้นตอนไหนแล้วนายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจาก กกต. ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของ กกต. ในไม่ช้านี้

ส่วนคาดว่าจะมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะเรายังไม่เห็นข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ตอบไปก่อนคงไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่าคดีของนายพิธา ต่างจากคดีถือหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายอิทธิพร กล่าวว่า คดีหุ้นทุกคดีจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่นำเสนอต่อเรา เราจะพิจารณาตัดสินไปตามหลักฐานที่มี ถ้าเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอก็ขอให้สอบเพิ่มหรือศึกษาเพิ่มได้ ตอนนี้เรายังไม่เห็นพยานหลักฐานที่เป็นทางการที่เป็นการทำงานของ กกต. ฉะนั้นตนจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้

เมื่อถามอีกว่าพยานหลักฐานตอนนี้มีเพียงพอ ยังต้องเพิ่มอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะสำนักงาน กกต. ยังไม่เสนอเรื่องขึ้นมา อยู่ในระหว่างการดำเนินการของสำนักงานฯ ทั้งนี้ จะต้องเรียกนายพิธา มาให้ชี้แจงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระบวนการ ถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่ กกต. เรียก จะต้องเป็นสำนักงานฯ เรียก

เมื่อถามอีกว่ามีคนมองว่ากรณีคำร้องของ นายพิธา เหมือนเป็นการเล่นงานทางการเมืองของฝ่ายการเมือง นายอิทธิพล กล่าวว่า เราไม่เคยดูเรื่องนั้น ทุกคำร้องเราต้องใช้พื้นฐานของระเบียบว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. เป็นหลักในการพิจารณาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก ส่วนโซเชียลมีการกดดันการตรวจสอบคดีหุ้นของนายพิธา นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่มี กกต. และสำนักงานฯ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่มาโดยตลอด.