เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ว่าที่ ส.ส.เขต 3 จ.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า มีประชาชนในพื้นที่สวนป่าบางขนุน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มาร้องเรียนถึงการถูกเจ้าหน้าที่กองทัพเรือเข้าไปในพื้นที่ในชุดเครื่องแบบลายพรางและอาวุธปืน เข้าไปบอกชาวบ้านให้ออกจากพื้นที่ บางนายทหารได้เข้าไปปักเขตพื้นที่ พ่นสัญลักษณ์ลงบนต้นยางของชาวบ้าน ทั้งที่ประชาชนหลายรายมีโฉนดที่ดินอย่างถูกต้อง ทำให้ประชาชนเกรงว่าจะเสียสิทธิในที่ดินทำกินไปเป็นพื้นที่ทหาร โดยพื้นที่สวนป่าบางขนุนมี 3,763 ไร่ 1 งาน 2 ตารางวา เดิมเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของกรมป่าไม้ ซึ่งมีบางส่วนเป็นพื้นที่พิพาท เนื่องจากประชาชนมีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน ไม่ว่าจะเป็นโฉนดที่ดินที่ออกตั้งแต่ปี 2510 บางรายมี ทป.4 บางรายมี ภบท.5 บางรายยังไม่มีโฉนดที่ดิน ปัญหาเกิดขึ้นจากวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา อธิบดีกรมป่าไม้ได้ลงนามมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ทัพเรือภาคที่ 3 ใช้ตั้งฐานทัพของกองพันต่อสู้อากาศยาน จากนั้นเจ้าที่ทหารจึงเข้าปักหลักเขตแดนและเตรียมขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ โดยที่ประชาชนไม่รู้มาก่อนว่า จะมีการเปลี่ยนพื้นที่ป่าและพื้นที่ทำกินให้เป็นพื้นที่กองทัพ

นายฐิติกันต์ กล่าวว่า ขณะที่เสนาธิการกองทัพเรือบอกว่าความจริงแล้ว กองทัพเรือต้องการพื้นที่ประมาณ 500 กว่าไร่ แต่กรมป่าไม้มอบพื้นที่อุทยานสวนป่าบางขนุนให้ทั้งหมด 3,700 ไร่ โดยฝั่งทหารอ้างว่าพื้นที่ที่เหลือ ทหารจะเข้ามาทำการอนุรักษ์ เพราะเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีกำลังคนไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ปัญหาการบุกรุกในพื้นที่อุทยานสวนป่าบางขนุนเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น ต้องพิสูจน์ แต่ประชาชนในพื้นที่แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้อยู่อาศัยเดิมที่ต้องการอนุรักษ์ป่าบางขนุนให้เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ และกลุ่มผู้ที่เข้าไปทำกินใหม่ ด้วยความที่พื้นที่ไม่มีแนวเขตที่ชัดเจน ทำให้ในอนาคตควรมีการพิสูจน์แนวเขตที่ดินอย่างถูกต้อง และควรทำประชาพิจารณ์ว่าประชาชนในพื้นที่ต้องการใช้สวนป่าบางขนุนแห่งนี้ ควบคู่กับการอนุรักษ์ในฐานะป่าต้นน้ำอย่างไร

“ประชาชนต้องการการประชาพิจารณ์และทำให้สวนป่าบางขนุนเป็นป่าชุมชน แต่กรมป่าไม้กลับยกพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นพื้นที่ทหาร และจะมีการสร้างฐานทัพเรือ ทำให้ประชาชนทั้ง 2 กลุ่ม ไม่สบายใจอย่างมาก เพราะแทนที่พื้นที่จะเป็นป่าอนุรักษ์ กลับถูกสร้างให้กลายเป็นฐานทัพของทหารแทน” นายฐิติกันต์ กล่าว

นายฐิติกันต์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดปัญหากับประชาชน ได้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทัพเรือภาคที่ 3 เรียกนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปพูดคุยในค่ายทหาร เพื่อให้ฝ่ายปกครองไปบอกประชาชนว่าอย่ามีเรื่อง โดยกองทัพเรือมีแผนจะปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ และจะล้อมรั้วทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย. นี้ ซึ่งการเรียกไปพูดคุยดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและประชาชนไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้มีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1.ให้ทหารหยุดการดำเนินการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการขับไล่ประชาชน และล้อมรั้วพื้นที่ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาดำเนินการ 2.ต้องมีการพิสูจน์สิทธิและเดินแปลงว่าตรงไหนเป็นที่โฉนด ตรงไหนเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ และตรงไหนเป็นที่ดินของรัฐ 3.ต้องทำประชาพิจารณ์เรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินและการตั้งฐานทัพว่า คนในพื้นที่ต้องการให้มีหรือไม่ และ 4.สิ่งแวดล้อม พื้นที่ตรงนี้เป็นป่าต้นน้ำ จึงไม่ควรมีสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ใดๆ

“บริเวณใกล้เคียงกัน มีท่าเรือทับละมุซึ่งมีพื้นที่เหลือ จนมีการเอาพื้นที่บางส่วนไปทำสนามกอล์ฟ ผมจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ป่าต้นน้ำของประชาชน มาสร้างเป็นฐานทัพเรือในเวลานี้” นายฐิติกันต์ กล่าว