เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เวลา 10.15 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง เข้าสังเกตการณ์การบรรยากาศการเปิดให้ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ 500 คน เข้ารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. เพื่อนำไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยนายฐิติเชฏฐ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศรับรอง ส.ส. ครบทั้ง 500 คน ว่าการที่ กกต. มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน รวมจำนวนแล้วครบ 500 คน เนื่องจากขณะนี้ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนในสำนวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในกรอบ 60 วัน จึงต้องประกาศรับรองผลไปก่อน

ส่วนการสอบสวนสำนวนคำร้องต่างๆ ยังดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และภายใน 30 วัน ที่ กกต. ประกาศรับรอง ถ้าผู้ใดเห็นคนที่ได้รับการรับรองการเป็น ส.ส. กระทำการไม่สุจริต สามารถร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบได้ หากสืบสวนแล้วเห็นว่ามีความผิด กระทำการทุจริต จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่งหนังสือถึง กกต. เพื่อให้ใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ขอให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ กกต. ตั้งขึ้นเป็นผู้ดำเนินการก่อน ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องมีพยานเอกสาร หลักฐาน ครบถ้วนและเพียงพอที่จะเสนอต่อศาลได้ หากไม่ครบถ้วน ศาลก็อาจจะไม่รับไว้พิจารณาได้ ดังนั้น กกต. ต้องดำเนินการด้วยความละเอียดและรอบคอบ รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายผู้ถูกร้อง

เมื่อถามว่าเอกสารที่มีอยู่ขณะนี้เพียงพอแล้วหรือไม่ จะต้องมีการเรียกหรือขอเพิ่มเติมภายหลังอีกหรือไม่ นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเรียกมา ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการประชุม บัญชีทรัพย์สินและหลักฐานการถือครองหุ้นของนายพิธา เพื่อประกอบการพิจารณาว่าหลักฐานตรงกันหรือไม่ แม้ขณะนี้จะมีข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับนายพิธา จำเป็นต้องตรวจสอบด้วยความละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานก่อนที่จะเสนอ กกต. เชื่อว่าคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ กกต. ตั้งขึ้นมาจากผู้เชี่ยวชาญ จะทำด้วยความรวดเร็ว และหลังจากนี้น่าจะมีการเชิญนายพิธา และบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงด้วย.