เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “ส่วยที่มูโนะ ปล่อยไว้ไม่ได้ เหตุการณ์โกดังพลุระเบิด ที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา การดำเนินคดีกับเจ้าของโกดัง ก็คงต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่จะตัดตอนแค่เจ้าของโกดังไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ คนใน ต.มูโนะ ทราบดีว่า มีความเกี่ยวพันกับการเรียกรับผลประโยชน์ รีดไถรังแกประชาชน เก็บส่วยส่งนายเป็นทอดๆ ชื่อของจ่า ฟ. ประชาชนในละแวกนั้นรู้จักกันดี ว่ามีหน้าที่เก็บส่วยธุรกิจสีเทาในมูโนะ ทั้งสินค้าหนีภาษี การค้ามนุษย์ ยาเสพติด และธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ เรื่องนี้ รมว.มหาดไทย และ ผบ.ตร. ตรวจสอบดู ก็จะรู้ต้นสายปลายเหตุ และลากไส้ทั้งขบวนการออกมาโดยไม่ยาก

โกดังพลุ เก็บดินดำเป็นตันๆ อยู่ใจกลางชุมชน เป็นไปได้อย่างไร ที่ทหาร ตำรวจแล้วฝ่ายปกครองจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย เจ้าของโกดัง ที่ระเบิด ก็เคยถูก กอ.รมน. จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายมั่นคง จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้

การกดขี่ รีดไถ รังแก ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีแต่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ รู้สึกหวาดระแวง และไว้วางใจเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใดมีการกดขี่ การต่อต้านก็ย่อมเป็นหน้าที่ พลุที่เก็บอยู่ในหัวใจคน ถ้าถูกเหยียบย่ำกดขี่อยู่เรื่อยๆ สักวันมันก็ปะทุ และระเบิดออกมาได้นะครับ

วันที่ 3 ส.ค. นี้ จะอภิปรายเรื่องนี้ในสภา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รมว.มหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง ผบ.ตร. และแม่ทัพภาค 4 จะตระหนักถึงปัญหาส่วยและการรีดไถประชาชน ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหวังว่าจะมีการปราบปรามให้หมดไปในเร็ววันนี้”.