เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 เขตสายไหม กทม. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จาก น.ส.บี (นามสมมติ) มารดา ของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ที่ถูกเพื่อนรุ่นพี่อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลราดตัวและจุดไฟเผา ทำให้ ด.ช.เอ มีบาดแผลจากการถูกไฟไหม้บริเวณลำตัว ต้นขาทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่สนามเด็กเล่นภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

นายเอกภพ กล่าวว่า เคสนี้เป็นเคสที่น่าสงสารเนื่องจาก ด.ช.เอ ถูกเด็กรุ่นพี่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันย่านลำลูกกา เมื่อน้องผู้เสียหาย ถูกเด็กอายุ 14 ปี 2 คนวางแผนหลอกให้ ด.ช.เอ ออกมาเล่นที่สนามเด็กเล่น คนหนึ่งล็อกแขน ด.ช.เอ จากด้านหลัง อีกคนเอาแอลกอฮอล์มาราดตัวแล้วจุดไฟเผา ข่มขู่ว่าห้ามบอกแม่ หากใครถามให้บอกว่า จุดไฟเผาตัวเอง ทำให้ ด.ช.เอ ไม่กล้าบอกกับทางผู้ปกครอง แต่ด้วยอาการบาดเจ็บและมีอาการซึม ทำให้แม่เปิดเสื้อดู จึงพบว่ามีบาดแผลพุพองจากการถูกไฟไหม้ที่ลำตัวและต้นขาจึงพาไปแจ้งความที่ สภ.คูคต

นายเอกภพ กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับตัวผู้เสียหายทราบว่า รุ่นพี่ตามมาชวนจึงออกไปด้วยความกลัว กระทั่งถูกล็อกข้างหลังและถูกแอลกอฮอล์ราดแล้วจุดไฟทำให้ไฟมันลุกพรึบขึ้นมาเปลวไฟยังเผาผมไหม้ กรณีนี้จะประสาน ผกก.สภ.คูคต แม้ผู้ก่อเหตุจะอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนเดียวกัน แต่จากพฤติกรรมเป็นการทำร้ายร่างกายมันอาจทำให้เสียชีวิตได้ และเป็นบาดแผลรุนแรงไม่อยากให้ทางตำรวจไปซ้ำเติมกับคนเจ็บ เพราะแม่ต้องการได้รับความเป็นธรรม แต่พอบอกว่าให้ไกล่เกลี่ยกันยิ่งเป็นการทำร้ายจิตใจคนเจ็บซ้ำ ทั้งคนเจ็บและผู้ปกครองของเด็กที่บาดเจ็บอยากให้ฝ่ายผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม โดยวันที่ 25 ก.ย.จะให้ทีมงานสายไหมต้องรอดพาผู้เสียหายไปติดต่อของเงินเยียวยาที่กระทรวงยุติธรรม จากการได้รับการกระทำทางคดีอาญา ต่อไป

น.ส.บี กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่องไปแจ้งความที่ สภ.คูคต โดยเรียกฝ่ายผู้ก่อเหตุพร้อมผู้ปกครองมาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.คูคต แต่ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด จึงไม่อยากเจรจาไกล่เกลี่ย ตำรวจเลยแนะนำว่าหากไม่คุยก็ให้แยกย้ายเดินทางกลับบ้าน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ตนย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ได้ 3 เดือน ไม่เคยรู้จักกับฝ่ายผู้ก่อเหตุมาก่อน ทราบว่าลูกออกไปเล่นกับรุ่นพี่กลุ่มนี้ มีบ้างที่บาดเจ็บแต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่เด็กเล่นกัน เลยไม่ได้คิดว่ามันจะรุนแรงถึงขนาดนี้

น.ส.บี กล่าวอีกว่า เมื่อวานเป็นผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนได้มาขอโทษ แต่ตนยังอยู่ในความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ผู้ปกครองของเด็กเพิ่งทราบว่า ลูกหลานตัวเองมาก่อเหตุลักษณะแบบนี้เช่นกัน ในส่วนของการรักษาได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลภูมิพล แพทย์นัดไปตรวจและล้างแผลอีกทีในวันที่ 25 ก.ย.นี้ สุดท้ายตนอยากให้คนที่ก่อเหตุได้รับบทลงโทษตามกฎหมายโดยไม่ขอยอมความเพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก และอยากเตือนว่า อย่างทำอะไรพิเรนแบบนี้มันทำให้เดือดร้อนและเจ็บปวดทั้งผู้ถูกกระทำและผู้ปกครอง.