เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ศูนย์รับเรื่องสายไหมต้องรอด น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อมาติดตามความคืบหน้าทางคดี หลังถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกายโดยใช้มีดอีโต้ไล่ฟันคอหวิดขาด

น.ส.เอ กล่าวว่า ตนคบกับอดีตสามีมา 5 ปี แต่จดทะเบียนกันเมื่อปี 64 จากนั้นอยู่กินฉันสามีภรรยากันมาโดยตลอดที่บ้านของตน กระทั่งช่วงเดือน พ.ย. 66 ตนกับอดีตสามีเริ่มมีปัญหาทะเลาะกัน โดยมีปากเสียงกันในเรื่องของเวลาเข้านอนที่ไม่ตรงกัน และอดีตสามีได้ยังเอาเรื่องที่ตนเข้ากับครอบครัวฝ่ายชายไม่ได้มาพูดด้วย

กระทั่งในวันที่ 1 ธ.ค. อดีตสามีได้ขอให้ตนไปเซ็นใบหย่า โดยอ้างเหตุผลว่า จะเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ซึ่งตนไม่ได้อยากที่จะหย่าเพราะยังรักอดีตสามีอยู่ แต่สุดท้ายก็ยอมเซ็นใบหย่า หลังเซ็นใบหย่าตนรู้สึกเสียใจและได้ตามง้อฝ่ายชายอยู่ตลอด กระทั่งวันที่ 2 ธ.ค. หลังจากเซ็นหย่าได้เพียง 1 วันเท่านั้น ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปที่เขื่อนบาวขาม จ.ลพบุรี โดยตนได้เจอฝ่ายชายอยู่ที่เขื่อนดังกล่าวจึงได้พยามง้อ แต่โดนด่าทอกลับมาตลอด

และตนได้หันไปเห็นรถที่ฝ่ายชายนั่งมา ซึ่งด้านในรถมีผู้หญิงที่ตนคาดว่าจะเป็นภรรยาใหม่ของสามีจอดอยู่ใกล้เคียง ก่อนที่ตนจะหันไปถามฝ่ายชายว่ามาด้วยกันไหม แต่ฝ่ายชายกลับเยาะเย้ยว่า “ก็หย่ากันแล้ว จะพาใครมาก็ได้” จึงทำให้ตนโมโห ก่อนจะเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนดังกล่าวที่นั่งอยู่ในรถ ก่อนจะตบผู้หญิงคนดังกล่าว และกระชากออกมาจากรถ

ต่อมาฝ่ายชายได้เข้ามาทำร้ายร่างกายตนเพื่อปกป้องผู้หญิงคนดังกล่าวที่มาด้วย ก่อนจะมีการตะลุมบอนกันเกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายชายได้วิ่งไปหยิบมีดอีโต้ซึ่งอยู่หลังรถของรุ่นน้อง ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งจอดอยู่ใกล้เคียงกัน ก่อนจะนำมีดอีโต้ดังกล่าว พุ่งเข้ามาฟันที่คอของตนเองหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นคอด้านซ้าย ก่อนจะมีคนที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาห้าม ซึ่งตนได้ไปหาหมอและเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านหมี่ หลังเกิดเหตุ ฝ่ายชายยังส่งแชตไปหารุ่นพี่ที่ตนรู้จักเป็นในลักษณะการเยาะเย้ยที่ได้ทำร้ายตนได้สำเร็จ

โดยเบื้องต้นหลังจากเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านหมี่ พนักงานสอบสวนได้บอกกับตนว่า ยังต้องรอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล เพื่อประกอบสำนวน โดยในวันนี้ตนร้อนใจ มาร้องสายไหมต้องรอด เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าทางคดี เพราะหลังจากมีการแจ้งความเกิดขึ้น ฝ่ายชายยังคงใช้ชีวิตตามปกติ

“ก่อนที่จะแยกย้ายกัน หลังเกิดเหตุสามีได้บอกว่า ถ้าตนมีคนใหม่จะตามรังควานไม่เลิก ที่มาร้องสายไหมต้องรอดในวันนี้ เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยกับคนในครอบครัว วันนี้ตนนั้นได้หมดรักฝ่ายชายไปแล้ว ต่อให้กลับมาขอคืนดีก็ไม่คืนดี เพราะภาพที่ฝ่ายชายง้างมีดฟันคอตนยังฝังอยู่ในหัว” น.ส.เอ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายสุทัศน์ อดีตสามี ยอมรับว่า ทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาจริง ด้วยการตบตี และไปหยิบอาวุธมีดมาเพื่อข่มขู่ แต่ไม่ได้ใช้มีดฟันที่คอ เพราะอดีตภรรยาอยู่ในอารมณ์โมโห ไม่ยอมฟัง ส่วนผู้หญิงที่มาด้วยกัน ยืนยันว่า เป็นญาติห่างๆ ไม่ใช่เมียน้อยตามที่ภรรยากล่าวอ้าง ส่วนเหตุผลที่ขอหย่านั้น เป็นปัญหาที่สะสมกันมานาน เนื่องจากที่ผ่านมา ตัวเองมีปัญหากับครอบครัวเพราะอดีตภรรยาหลายครั้ง และการคบหากันมานานแล้ว จึงหมดรักอดีตภรรยาแล้ว